เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

5 วิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกยังไงให้เหมาะกับคุณ | อัปเดตใหม่ล่าสุด ปี 2023

5 วิธีเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลือกยังไงให้เหมาะกับคุณ | อัปเดตใหม่ล่าสุด ปี 2023

12 เหตุผลว่าทำไมต้องซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าของ Homefittools

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการวิ่ง และกำลังมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับใช้ในบ้าน สามารถเข้าไปดูสินค้าของเราได้ที่นี่ ลู่วิ่งไฟฟ้า ของ Homefittools สินค้าของเรามีข้อดีอะไรบ้างไปดูกันเลย

  1. ราคาไม่แพง ฟังก์ชั่นครบครัน มีหลายรุ่นให้เลือก
  2. รองรับน้ำหนัก และแรงกระแทกได้ดี มีความปลอดภัย
  3. มีคลิปรีวิว วิธีการดูแลรักษา และคลิปวิดีโอการประกอบเครื่อง
  4. มีหน้าร้าน และสามารถทดลองลู่วิ่งไฟฟ้า ได้ฟรี
  5. โครงสร้างเป็นเหล็ก แข็งแรง ทนทาน รับประกัน 10 ปี
  6. รับประกันมอเตอร์ลู่วิ่ง นาน 5 ปี
  7. บริการซ่อมตัวเครื่องฟรี 1 ปี
  8. ชิ้นส่วนโครงสร้าง และอะไหล่ มีของ Stock ไว้ไม่ต้องรอนาน
  9. บริการให้คำปรึกษา แนะนำสินค้า และแนะนำการใช้งานเครื่องออกกำลังกาย
  10. มีบริการส่งด่วน สำหรับลูกค้าที่อยู่ใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล
  11. มีบริการซ่อมแซม Onsite ซ่อมแซมนอกสถานที่
  12. มีบริการหลังการขาย โดยช่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 20 ปี

5 ข้อที่คุณต้องรู้ ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า

เลือก ลู่วิ่งไฟฟ้ายังไงให้เหมือนกับการใช้งาน : ราคาแพงจนเกินเหตุหรือไม่? สามารถใช้งานได้คุ้มค่าไหม?ได้ฟังก์ชั่นครบครันตามที่ต้องการหรือไม่? บริการหลังการขายเป็นอย่างไร? มีอะไหล่พร้อมซ่อมแซมไหม?หากครบทุกหัวข้อดังต่อไปนี้ สามารถเลือกซื้อได้ตามหัวข้อต่อไป

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า

"ย้ำอีกครั้งการเลือกซื้อลู่วิ่ง คือ เลือกตามสเป็กของผู้ใช้งาน ไม่ใช่เลือกที่ลู่วิ่ง"

สเปคการใช้งานลู่วิ่ง

ขั้นตอนการเลือกลู่วิ่งขั้นตอนที่ 1

เลือกตามสเปคของผู้ใช้งาน: สำคัญคือ ไม่ใช่เลือกที่สเปคของลู่วิ่ง (ข้อนี้สำคัญมากๆ) เนื่องจากหลายๆ ครั้งที่ผู้ใช้งานจะเลือกที่ความสามารถของลู่วิ่ง แต่เมื่อซื้อไปแล้ว กลับไม่ได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ใช้งานได้ไม่ครบทุกฟังก์ชั่น ดังนั้นหากทำตามเช็คลิสนี้ ก็สามารถกำหนดความต้องการ และเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่าง:

  • น้ำหนักเกิน 100 กก.ใช้งานเพื่อวิ่ง ควรเลือกใช้ลู่วิ่งที่มีมอเตอร์สูงกว่า 3.0 แรงม้า
  • น้ำหนักน้อยกว่า 100 กก. สามารถเลือกใช้ลู่วิ่งที่มีมอเตอร์ตั้งแต่ 1-2.5 แรงม้าได้เลย
เปรียบเทียบลู่วิ่งกับน้ำหนักของผู้ใช้

ขั้นตอนการเลือกลู่วิ่งขั้นตอนที่ 2

ให้เปรียบเทียบความยาวของสายพาน และส่วนสูงของผู้ใช้งาน:

ส่วนสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร:

  • ใช้เดินช้า-เร็ว ควรเลือกความยาวสายพาน 100 ซม.
  • ใช้งานวิ่งทั่วๆ ไป ความยาวสายพานควรใช้ 120 ซม.

สูงเกิน 180 เซ็นติเมตร ขึ้นไป

  • ใช้เดินช้า-เร็ว ควรเลือกความยาวสายพาน 130 เซ็นติเมตร
  • ใช้งานวิ่งทั่วๆ ไป ความยาวสายพานควรใช้ 140 เซนติเมตร
เปรียบเทียบความยาวสายพานและส่วนสูง
ตัวอย่างผู้ใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าตามน้ำหนัก-ส่วนสูง

ขั้นตอนการเลือกลู่วิ่งขั้นตอนที่ 3

ใช้ความชัน หรือต้องการฟังก์ชั่นพิเศษอะไรอีกหรือไม่: หากผู้ใช้ต้องการลู่วิ่งที่สามารถปรับความชันได้ และต้องการฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ลำโพง ช่อง AUX ,USB Port มีฟังก์ชันหน้าจอแสดงสถานะเวลา ความเร็ว ระยะทาง แคลอรี่ ชีพจรหัวใจ ก็สามารถเลือกได้ตามการใช้งานได้เลย


ขั้นตอนการเลือกลู่วิ่งขั้นตอนที่ 4

พื้นที่การจัดวาง จำกัดหรือไม่: พื้นที่ที่จะจัดวางลู่วิ่ง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยการประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากผู้ใช้ต้องคำนวนว่า พื้นที่จะพอสำหรับวางไหม? ความปลอดภัยขณะใช้งานเครื่อง หรือเคลื่อนย้ายจัดเก็บเกะกะหรือไม่

พื้นที่การจัดวาง

ขั้นตอนการเลือกลู่วิ่งขั้นตอนที่ 5

เลือกมอเตอร์แบบไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งานของเรา:

ตารางเปรียบเทียบมอเตอร์

ตัวอย่าง

เลือกมอเตอร์จากรูปแบบการใช้งาน เช่น ใช้งานลู่วิ่ง 3 คน สำหรับเดิน 1 ชม. ลู่วิ่งที่ทนทานควรเลือกมอเตอร์ AC เกรดฟิตเนส เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานมอเตอร์ ประหยัดค่าใช้จ่าย และความปลอดภัยในการวิ่ง

เลือกลู่วิ่งตามการใช้งาน

มอเตอร์ DC/มอเตอร์ AC ต่างกันยังไง

เลือกซื้อลู่วิ่งมอเตอร์ DC

มอเตอร์ DC เป็นมอเตอร์สำหรับ ใช้งานไม่หนักมาก 1 -2 คน หากใช้ต่อเนื่องควรหยุดพักเครื่อง

  • ข้อดี : ราคาถูกกว่ามอเตอร์ AC มาก มีขนาดเล็ก ทำให้ตัวลู่วิ่งไม่ใหญ่มาก
  • ข้อเสีย : ต้องหมั่นดูแล เช่นการหยอดน้ำมัน เป็นต้น
การเลือกซื้อมอเตอร์ AC

มอเตอร์ AC จะใช้งานต่อเนื่องได้ทนกว่า แรงกว่า เร็วกว่า ใช้งานได้ 3 คนขึ้นไป หรือผู้ใช้ที่มีน้ำหนักเยอะ

  • ข้อดี : การดูแลรักษาก็ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่วิ่งจริงจัง หรือในโครงการหมู่บ้าน ฟิตเนสและคอนโด
  • ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างแพง ลู่วิ่งมีขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เยอะ

การรับประกันลู่วิ่งไฟฟ้า ของ Homefittools

  • รับประกันสินค้าจากทางร้านโดยตรง สูงสุด 10 ปี
  • บริการหลังการขายโดยทีมช่างมืออาชีพ มีหน้าร้านชัดเจน ไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอน
  • ชิ้นส่วนโครงสร้าง และ อะไหล่อื่นๆ มีของ Stock ไว้ไม่ต้องรอของส่งจากโรงงาน
  • อุปกรณ์ทุกตัวผ่านการทดสอบ และ การันตีคุณภาพ จากเทรนเนอร์ มืออาชีพ ก่อนขายจริง

ข้อมูล และเงื่อนไขการรับประกันลู่วิ่ง

Information - Terms of Warranty
✓ ลู่วิ่ง รับประกันโครงสร้างของเหล็ก นานถึง 10 ปี
✓ มอเตอร์ รับประกัน นานถึง 5 ปี
✓ วงจรไฟฟ้า แผงวงจร มอนิเตอร์ รับประกัน นานถึง 1 ปี
✓ ตัวเครื่องซ่อมฟรีตลอดอายุการรับประกัน 1 ปี


* หมายเหตุ

ครอบคลุมการชำรุดเสียหาย อันเนื่องมาจาการผลิตหรือการขนส่งที่เกิดขึ้นภายใต้การใช้งานตามปกติเท่านั้น บริษัทจะทำการซ่อมหรือเปลี่ยนอะไหล่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตามระยะเวลาที่คำหนดไว้ข้างต้น หลังจากนั้นบริษัทจะคำนวณค่าอะไหล่และค่าบริการตามจริง มอเตอร์ฟรีค่าแรงเฉพาะ 1 ปีแรกเท่านั้น


* ทางร้านไม่รับประกันความเสียหายที่เกิดจากปัญหาดังนี้

  • สินค้าต้องไม่เสียหายจากการใช้งานผิดประเภท หรือดัดแปลงโครงสร้างของอุปกรณ์
  • การเสียหาย กรณี แตก หัก หรือการชำรุดที่ได้รับผลจากการกระแทก
  • กรณีมอเตอร์ไหม้จากการที่ไม่ได้มาจากการใช้งานปกติ โดนของเหลว หรือการดูแลอุปกรณ์อื่นๆ
  • สายไฟขาด อันเนื่องมาจากรอยขีดข่วน รอยของมีคม และอื่นๆ อันเนื่องเกิดมาจาก หนู หรือแมลง
  • อุปกรณ์สิ้นเปลือง เช่น ปุ่มกดกดหน้าจอ กรอบพลาสติก ตัวหนังด้ามจับและอื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับโครงสร้าง

สรุป

การเลือกลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณจาก 5 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ให้คุณลองสังเกตุและเลือกลู่วิ่งตามการใช้งานที่คุณต้องการ เพื่อลดค่าใช้จ่าย และได้ลู่วิ่งไฟฟ้าตามความต้องการ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่าจะดีที่สุด

ใช้งานลู่วิ่งอย่างไร ให้ปลอดภัย

ศึกษาและทำความเข้าใจลู่งวิ่งไฟฟ้า: ก่อนเริ่มใช้งาน ควรศึกษาคู่มือการใช้งานเป็นอย่างดี เพราะลู่วิ่งแต่ละรุ่นอาจจะมีฟังค์ชั่นการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น หากศึกษาเรื่องการใช้งานก่อนใช้จริง นอกจากจะช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัยแล้ว ยังสามารถใช้งานฟังค์ชั่นการทำงานได้อย่างเต็มที่

ผู้ใช้งานมือใหม่ควรเริ่มจากระดับขั้นต้น: หากเป็นผู้ใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นครั้งแรก หรือใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้าไม่บ่อยนัก ควรเริ่มใช้งานจากระดับต่ำที่สุดก่อน และค่อยๆ เพิ่มระดับขึ้นได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม หรือตามความสามารถของผู้ใช้งาน

การใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นของลู่วิ่งไฟฟ้า: เครื่องออกกำลังกาย Homefittools มีแอพพลิเคชั่นที่อาจช่วยในการติดตามการออกกำลังกาย, การตั้งค่าโปรแกรม, และให้ข้อมูลที่สนับสนุนของเครื่องออกกำลังกาย

ทดลองโปรแกรมออกกำลังกายที่หลากหลาย: ทดลองและศึกษาโปรแกรมออกกำลังกายสำหรัยลู่วิ่งไฟฟ้าของ Homefittools เพราะมีโปรแกรมออกกำลังกายที่หลากหลาย สามารถทดลองหลาย ๆ โปรแกรมเพื่อค้นหาโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคุณ.

การปรับความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้า: ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถปรับได้ หลายระดับ หากคุณต้องการเพิ่มความท้าทายในการออกกำลังกายของคุณ ควรเริ่มทดลองจากความเร็วต่ำปรับความเร็วค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละนิด

การติดตามการสวมใส่อุปกรณ์: คุณสามารถเลือกใช้เครื่องติดตามการวัดผลลัพท์ของการออกกำลังกาย เช่น นาฬิกาออกกำลังกาย เพราะการสวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้ ช่วยวัดผลและติดตามความก้าวหน้าของการฝึกฝนร่างการของคุณได้เป็นอย่างดี

เสริมสร้างความสนุกด้วยแอฟพลิเคชั่นที่หลากหลาย: การใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า Homefittools เป็นกิจกรรมที่มีสนุกสนาน และสามารถวิ่งรวมกับเพื่อน ๆ จากทั่วโลกได้ง่าย ๆ โดยเชื่อมต่อ Zwift และยังมีแอพพลิเคชัน Bluetooth, Fs, Netfllx, Wifi, Youtube, และอื่นๆ อีกหลากหลาย

การบำรุงรักษาลู่วิ่งไฟฟ้าอยู่อย่างสม่ำเสมอ: มั่นสังเกต ดูแลลู่วิ่งไฟฟ้า และบำรุงรักษาตามคำแนะนำของ Homefittools เพื่อให้ลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานได้นาน

การใช้งานลู่วิ่งออกกำลังกาย หรือลู่วิ่งไฟฟ้า ทำให้การออกกำลังกายของคุณ เป็นเรื่องที่สนุกสนาน และเสริมสร้างร่างกายของคุณให้แข็งแรง ปรับความสมดุลของร่างกาย และสิ่งสำคัญคือ ควรใช้งานระมัดระวังและปฎิบัติอย่างปลอดภัยเสมอ

7 วิธีการดูแลรักษาให้ลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

การดูแลรักษาลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างถูกต้อง สามารถช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การดูแลรักษาสามารถช่วยให้ลู่วิ่งไฟฟ้าใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

1. การทำความสะอาด: ทำความสะอาดลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น การล้างผ้าทุก ๆ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อล้างคราบเหงื่อ คราบฝุ่น และสิ่งสกปรกตรง ๆ ที่ติดอยู่ที่สายพาน

2. การเติมน้ำมัน: ตรวจสอบและเติมน้ำมันในส่วนของลู่วิ่งเพื่อให้ลู่วิ่งมีการเคลื่อนที่ที่นุ่มนวลและไม่ให้สายพานฝืด

3. การตรวจสอบสายพาน: ตรวจสอบสายพานว่ามีความเสียหายหรือไม่ และควรเปลี่ยนสายพานทันทีเมื่อมีการรุนแรงหรือมีลักษณะร่องรอยขาด

4. ศึกษาเรื่องการใช้งานลู่วิ่งไฟฟ้า: ตรวจสอบและปรับแต่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับลู่วิ่งและกับตัวของคุณเอง

5. การเก็บในที่แห้ง: ใส่ลู่วิ่งไฟฟ้าในที่ที่ไม่มีความชื้นและห่างจากแสงแดดตรง เพื่อป้องกันการทำลายจากความร้อนและความชื้น

6. การตรวจสอบและปรับสวิตช์และสายไฟ: ตรวจสอบสวิตช์และสายไฟเพื่อแน่ใจว่าไม่มีความชำรุดหรือสึกทำให้เกิดปัญหาในการใช้งาน

7. การรับบริการซ่อมบำรุง: ถ้ามีปัญหาหรืออุปกรณ์ชำรุด, ควรติดต่อศูนย์บริการเพื่อรับบริการซ่อมบำรุงจากช่างมีความชำนาญ จาก Homefittools เท่านั้น

ดังนั้นการใช้งานที่ถูกวิธี และการดูแลรักษาลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องมีประสิทธิภาพและให้การบริการที่ดีในระยะยาว