สวัสดีครับ ผมโค้ชปูแน่น วันนี้ผมจะมาแชร์เรื่องที่ทำให้หลายคนปวดหัวมาก จากประสบการณ์ดูแลลูกค้าที่ฟิตเนส ผมเจอคำถามนี้บ่อยมาก "โค้ช..Cheat Day กับ Cheat Meal อันไหนดีกว่ากัน?" "ทำแล้วจะอ้วนไหม?" วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจนี้ให้หมดกันไปเลยครับ และถ้าใครอยากมาลองปรึกษาแบบเจอหน้ากับโค้ชจริง ๆ หรืออยากรู้ว่าแผนอาหารของตัวเองควรจัด Cheat Meal ยังไงให้ไม่หลุดเป้า ลองมาทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วันกับเราได้ที่ Real Gym ครับ ผมรออยู่ที่นั่นเลย กดลงทะเบียนและดูสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่นี่
"ชีทเดย์" หรือ "วันโกง" เป็นแนวคิดยอดนิยมในวงการควบคุมน้ำหนักและสร้างกล้ามเนื้อ เป็นวันที่ผู้คนอนุญาตให้ตัวเองพักจากแผนการกินที่เคร่งครัด และเพลิดเพลินกับอาหารที่ปกติถูกห้ามในช่วงควบคุมอาหาร สำหรับหลายคน ชีทเดย์เป็นเสมือนวันแห่งการปลดปล่อย ได้อิ่มเอมกับอาหารจานโปรดโดยไม่รู้สึกผิด
อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากชีทเดย์อย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งสำคัญ การกินอย่างไม่ยั้งคิดในวันเดียวอาจส่งผลเสียต่อความพยายามควบคุมน้ำหนักที่สั่งสมมาทั้งสัปดาห์ได้ ในขณะเดียวกัน มีทฤษฎีว่าชีทเดย์อาจช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย และป้องกันภาวะ "ชะงักงัน" ในการลดน้ำหนัก
ประเด็นสำคัญที่ยังถกเถียงกันคือความถี่ที่เหมาะสมของชีทเดย์ บางคนแนะนำสัปดาห์ละครั้ง บางคนเสนอทุกสองสัปดาห์หรือเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายส่วนบุคคลและสภาพร่างกายของแต่ละคน ในบทความนี้ เราจะสำรวจแง่มุมต่างๆ ของชีทเดย์ ทั้งข้อดี ข้อเสีย และวิธีการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพและเป้าหมายการควบคุมน้ำหนักของคุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 30 เมนูลดน้ำหนัก !
เมื่อพูดถึง Cheat Day และ Cheat Meal หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองแบบนี้ต่างกันอย่างไร จากประสบการณ์ตรงที่ผมได้ดูแลลูกค้ามาหลายร้อยคน รวมถึงตัวผมเองที่ต้องเตรียมตัวแข่งขัน ผมพบว่าแต่ละแบบมีข้อดีและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน
Cheat Day นั้นเหมือนการปลดล็อคให้ตัวเองได้กินอะไรก็ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจทำให้แคลอรี่พุ่งขึ้นถึง 3,000-4,000 แคลอรี่เลยทีเดียว วิธีนี้เหมาะกับคนที่คุมอาหารมาอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ และมีวินัยสูงพอที่จะกลับมาคุมอาหารได้ในวันถัดไป
ส่วน Cheat Meal นั้นจะจำกัดการ "โกง" ไว้แค่หนึ่งมื้อเท่านั้น ทำให้ควบคุมแคลอรี่ได้ดีกว่า โดยทั่วไปจะเพิ่มขึ้นประมาณ 800-1,200 แคลอรี่ ผมมักแนะนำวิธีนี้สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มควบคุมอาหาร เพราะกลับเข้าสู่การคุมอาหารได้ง่ายกว่า
เลือกซื้อ "อุปกรณ์ออกกำลังกาย" คุณภาพสูงได้ที่นี่ คลิกเลย !

เรื่องที่น่าสนใจมากคือผลของการ Cheat ต่อฮอร์โมนในร่างกาย จากงานวิจัยใน International Journal of Obesity พบว่าการ Cheat แบบมีแผนส่งผลดีต่อร่างกายอย่างน่าประหลาดใจ
ฮอร์โมนเลปตินซึ่งควบคุมความหิวจะเพิ่มขึ้นหลังจาก Cheat ประมาณ 24-36 ชั่วโมง ช่วยให้เราควบคุมความหิวได้ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ฮอร์โมนกรีลินที่กระตุ้นความหิวจะลดลงชั่วคราว ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ที่น่าสนใจไปกว่านั้น การเผาผลาญของร่างกายจะเพิ่มขึ้น 6-8% ใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจาก Cheat ก่อนจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติใน 2-3 วัน
ตลอดเวลาที่ผมดูแลลูกค้า ผมพบว่าการเลือกระหว่าง Cheat Day และ Cheat Meal แบบไหนดีกว่า นั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ผมมักแนะนำให้เริ่มจาก Cheat Meal ก่อน เพราะควบคุมง่ายและไม่ทำให้แผนการลดน้ำหนักสะดุด
ส่วนนักกีฬาหรือคนที่เล่นกล้าม การทำ Cheat Day อาจเป็นตัวเลือกที่ดี ผมเคยใช้วิธีนี้ตอนเตรียมตัวแข่งขัน พบว่าช่วยเติมพลังงานให้กล้ามเนื้อและทำให้การซ้อมในวันถัดไปมีประสิทธิภาพมากขึ้น
|
เป้าหมาย |
แบบที่แนะนำ |
ความถี่ |
หมายเหตุ |
|
ลดน้ำหนัก |
Cheat Meal |
1 ครั้ง/สัปดาห์ |
ควบคุมแคลอรี่ได้ดีกว่า |
|
เพิ่มกล้ามเนื้อ |
Cheat Day |
1-2 ครั้ง/เดือน |
เติมไกลโคเจนได้เต็มที่ |
|
รักษาน้ำหนัก |
Cheat Meal |
2 ครั้ง/สัปดาห์ |
ยืดหยุ่นกับไลฟ์สไตล์ |
ตารางแผนการกิน 7 วัน
|
วัน/มื้อ |
เช้า |
ว่างเช้า |
กลางวัน |
ว่างบ่าย |
เย็น |
หมายเหตุ |
|
วันจันทร์ |
ไข่ต้ม 2 ฟอง + ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (150 แคล) |
อัลมอนด์ 10 เม็ด (70 แคล) |
อกไก่ย่าง + สลัดผัก (300 แคล) |
โยเกิร์ตไขมัน 0% (70 แคล) |
ปลาแซลมอนย่าง + ผักต้ม (300 แคล) |
เน้นโปรตีนและผัก |
|
วันอังคาร |
ข้าวโอ๊ต 1/2 ถ้วย + กล้วยหอม 1 ลูก (250 แคล) |
แครอทสติ๊ก (50 แคล) |
สเต็กเนื้อ + มันหวาน 1 ลูกเล็ก (350 แคล) |
วอลนัท 10 เม็ด (90 แคล) |
ไก่นึ่ง + ซุปผัก (250 แคล) |
ลดน้ำตาลและคาร์บ |
|
วันพุธ (Cheat) |
ไข่ขาวต้ม 3 ฟอง + ผักโขม (150 แคล) |
โยเกิร์ตไขมัน 0% (70 แคล) |
Cheat Meal เบอร์เกอร์ + มันฝรั่งทอด (600 แคล) |
ฝรั่ง 1 ลูก (60 แคล) |
สลัดอกไก่ + น้ำมันมะกอก (250 แคล) |
เน้นควบคุมแคลมื้อเย็น |
|
วันพฤหัสบดี |
ข้าวกล้อง 1 ทัพพี + อกไก่ย่าง (200 แคล) |
ถั่วลิสงต้ม 1 กำมือ (150 แคล) |
ข้าวไรซ์เบอร์รี + ต้มยำกุ้ง (300 แคล) |
แอปเปิล 1 ลูก (80 แคล) |
ปลานึ่ง + น้ำพริก + ผักสด (250 แคล) |
สมดุลโปรตีนและคาร์บ |
|
วันศุกร์ |
โจ๊กข้าวกล้อง + ไข่ต้ม 1 ฟอง (200 แคล) |
วอลนัท 10 เม็ด (90 แคล) |
ไก่เทอริยากิ + ผักต้ม (300 แคล) |
แครอท + แตงกวาสด (50 แคล) |
สลัดทูน่า + น้ำมันมะกอก (250 แคล) |
เพิ่มไฟเบอร์ |
|
วันเสาร์ |
สมูทตี้ผักผลไม้ (150 แคล) |
อัลมอนด์ 10 เม็ด (70 แคล) |
สเต็กปลา + มันหวาน 1 ลูกเล็ก (350 แคล) |
โยเกิร์ตไขมัน 0% (70 แคล) |
ต้มจืดไก่ + ผักสด (250 แคล) |
อาหารย่อยง่าย |
|
วันอาทิตย์ |
ไข่ต้ม 2 ฟอง + สลัดผัก (150 แคล) |
ผลไม้สด (60 แคล) |
อกไก่ย่าง + ผักต้ม (300 แคล) |
ถั่วลิสงต้ม (90 แคล) |
ซุปฟักทอง + ไข่ขาว (250 แคล) |
คุมแคลอรีวันพัก Cheat Meal |

การจะทำ Cheat ให้ได้ผลดี ต้องมีการวางแผนที่ดี จากประสบการณ์ของผม มีเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้
ทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วัน ที่ Real Gym : มี 5 สาขาใกล้บ้านคุณ ครบทุกเครื่อง – คลาส – เทรนเนอร์ เล่นฟรีทุกคลาส
อาหารที่มีโปรตีนสูงช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและเพิ่มการเผาผลาญพลังงานระหว่างวัน ตัวเลือกที่ดี ได้แก่
น้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่คงทนและอาจทำให้น้ำตาลในเลือดแกว่งไปมา ซึ่งส่งผลให้รู้สึกหิวเร็วขึ้นหลังมื้ออาหาร ตัวอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง
การเลือกวิธีการปรุงอาหารช่วยลดปริมาณไขมันที่ไม่ดีและแคลอรี่ ตัวเลือกที่ควรเลือก:
การกิน Cheat Meal ควรเน้นที่ "ปริมาณที่พอดี" เพื่อป้องกันไม่ให้แคลอรี่เกินความจำเป็น
การกิน Cheat Meal ควบคู่กับผักสดหรือผักลวก ช่วยเพิ่มใยอาหารและลดการดูดซึมไขมัน
หากคุณวางแผน Cheat Meal ควรลดแคลอรี่ในมื้ออื่นๆ เพื่อชดเชย ตัวอย่างเช่น
1.BMR (พลังงานพื้นฐาน) = น้ำหนัก (กก.) x 24 (ชั่วโมง)
ตัวอย่าง น้ำหนัก 70 กก. = 70 x 24 = 1,680 แคล
2.TDEE (พลังงานที่ใช้จริง) = BMR x กิจกรรมในชีวิตประจำวัน
หลังจาก Cheat ไม่ว่าจะเป็น Day หรือ Meal สิ่งสำคัญคือการกลับเข้าสู่แผนปกติอย่างนุ่มนวล ผมมีหลักการง่ายๆ คือ "ค่อยๆ กลับ แต่ต้องกลับให้ได้"
วันแรกหลัง Cheat

1.กินเยอะวันเดียวอ้วนไหม?
กินเยอะวันเดียวไม่ทำให้อ้วนถาวร แต่น้ำหนักอาจขึ้น 1-2 กิโลในระยะสั้นเพราะการสะสมน้ำและไกลโคเจน ซึ่งจะกลับสู่ปกติใน 2-3 วันหากกลับมาคุมอาหารอย่างเคร่งครัด
2.ควรทำ Cheat Day หรือ Cheat Meal บ่อยแค่ไหน?
Cheat Day ควรทำ 1-2 ครั้งต่อเดือน ส่วน Cheat Meal แนะนำ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระดับความเข้มข้นในการคุมอาหาร
3.ทำ Cheat Day ระหว่าง IF ได้ไหม?
ทำได้ แต่ควรทำในช่วงเวลากินปกติของ IF และไม่ควรทำบ่อยเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อการปรับตัวของร่างกายต่อการอดอาหาร
4.กิน Cheat Meal ช่วงไหนดีที่สุด?
แนะนำให้กินมื้อเที่ยงเป็น Cheat Meal เพราะร่างกายยังมีเวลาเผาผลาญตลอดช่วงบ่าย และไม่รบกวนการนอนหลับ
5.น้ำหนักขึ้นหลัง Cheat Day จะกลับมาปกติเมื่อไหร่?
โดยทั่วไปใช้เวลา 2-3 วันในการกลับสู่น้ำหนักปกติ หากคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
6.ควรออกกำลังกายในวัน Cheat Day ไหม?
ออกกำลังกายได้ แต่แนะนำให้ทำในช่วงเช้าก่อน Cheat เพื่อเพิ่มการเผาผลาญ และไม่ควรหักโหมเกินไป
7.กินของหวานวันเดียวจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงหรือไม่?
น้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นชั่วคราว แต่จะกลับสู่ปกติใน 24 ชั่วโมงหากไม่มีปัญหาสุขภาพอื่น
8.Cheat แบบไหนดีกว่ากันระหว่างบุฟเฟ่ต์กับฟาสต์ฟู้ด?
บุฟเฟ่ต์มักจะดีกว่าเพราะมีตัวเลือกอาหารที่หลากหลายกว่า รวมถึงโปรตีนคุณภาพดีและผัก แต่ต้องเลือกกินอย่างชาญฉลาด
9.จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องทำ Cheat Day?
สังเกตจากอาการเหล่านี้: รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ หงุดหงิดง่าย หิวบ่อย น้ำหนักไม่ลดติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ แม้คุมอาหารอย่างเคร่งครัด
10.ทำ Cheat Day แล้วต้องชดเชยยังไงในวันถัดไป?
ไม่จำเป็นต้องอดอาหารหรือออกกำลังกายหนักเกินไป แค่กลับมาทำตามแผนปกติ เน้นดื่มน้ำมากๆ และเลือกอาหารที่ย่อยง่าย
11.ควรทำอย่างน้อยกี่วัน
การทำชีทเดย์ที่พอเหมาะล้วนขึ้นอยู่กับสภาพสรีระตามแต่บุคคล โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 1 วัน/สัปดาห์
จากประสบการณ์ทั้งการแข่งขันและดูแลลูกค้า ผมสรุปได้ว่าการทำ Cheat ให้ได้ผลต้องมีหลักการที่ชัดเจน เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือต้องกลับมาคุมอาหารให้ได้ในวันถัดไป
อย่าลืมว่า Cheat ไม่ใช่การทำร้ายตัวเอง แต่เป็นการให้รางวัลร่างกายและจิตใจ เพื่อให้เราสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างยั่งยืน ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามผมได้ที่ Real Gym นะครับ และถ้าอยากลองจัดแผนกินจริง จัดการออกกำลังกายให้เข้ากับเป้าหมายแบบเจอหน้ากับโค้ช ลองมาทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วันก่อนได้เลยครับ กดลงทะเบียนและดูสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่นี่
ขอให้ทุกคนสนุกกับการ Cheat อย่างฉลาดครับ!
ฃ