รีวิว RowErg สำหรับ HYROX: คุ้มค่าหรือไม่ในปีนี้?
หากคุณกำลังมองหาเครื่อง Rowing ที่ตอบโจทย์การฝึกระดับแข่งขัน โดยเฉพาะการเตรียมตัวสำหรับงาน HYROX ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก Concept2 RowErg คือชื่อแรกที่หลายคนแนะนำ และก็เป็นเครื่องที่ถูกใช้ในการแข่งขัน HYROX อย่างเป็นทางการทั่วโลก
บทความนี้เขียนโดยทีมงานจากฟิตเนสที่มี 5 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งเราใช้ RowErg จริงในคลาสฝึก HYROX และคาร์ดิโอเข้มข้นทุกวัน อีกทั้งเรายังเป็น ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Concept2 ในประเทศไทย จึงมีทั้งประสบการณ์จากการใช้งานจริง และมุมมองในฐานะผู้ให้คำปรึกษาการเลือกเครื่อง Rowing ให้กับลูกค้าหลายกลุ่ม
สิ่งที่คุณจะได้อ่านในบทความนี้ ไม่ใช่แค่การบอกว่า “RowErg ดี”
แต่คือการ ชำแหละประสบการณ์ที่เราเห็นในสนามฝึกจริง — ตั้งแต่เรื่องการตั้งค่า, ประเภทผู้ใช้งานที่เหมาะ, จนถึงผลลัพธ์ที่ RowErg มอบให้ได้จริง พร้อมเทคนิคจากโค้ชที่แนะนำลูกค้ามาหลายรุ่น รวมถึงงานวิจัยใหม่ ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่า Rowing Machine ส่งผลต่อร่างกายได้มากแค่ไหน
โดยเฉพาะหากคุณกำลังจะเตรียมแข่ง HYROX — RowErg จะไม่ใช่แค่เครื่องคาร์ดิโอธรรมดา แต่คือ อาวุธลับในการควบคุมเวลา และความฟิตที่เหนือกว่าคู่แข่ง
อย่าเพิ่งตัดสินใจ จนกว่าจะได้อ่านบทความนี้จบ
เราจะช่วยให้คุณตอบได้เองว่า
“Concept2 RowErg เหมาะกับคุณหรือไม่? และคุ้มค่าจริงไหมในปีนี้?”
RowErg คืออะไร? ทำไมถึงเป็นเครื่องที่ใช้ในการแข่ง HYROX
Concept2 RowErg คือเครื่อง Rowing Machine หรือ “เครื่องกรรเชียงบก” ที่ถูกยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” ของวงการคาร์ดิโอทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่นักกีฬา CrossFit และ HYROX ซึ่งต่างก็ใช้เครื่องนี้ในโปรแกรมฝึกจริงจังเพื่อพัฒนาสมรรถภาพแบบ Endurance Strength + Power Output
RowErg มีต้นกำเนิดจาก Concept2 ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์สำหรับนักกีฬาเรือพายระดับโลก จุดแข็งของ RowErg อยู่ที่การออกแบบให้ “แรงต้าน” มาจาก อากาศ (Air Resistance) ซึ่งปรับตามแรงที่ผู้ใช้ออกแรงพาย ทำให้ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬามืออาชีพ หรือผู้เริ่มต้นใช้งาน ก็สามารถรู้สึกถึงความลื่นไหลและแรงต้านที่เหมาะสมกับตัวเองโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก
ทำไม HYROX ถึงเลือกใช้ RowErg?
หากคุณเคยดูการแข่ง HYROX จริงจัง คุณจะเห็นว่าทุกสนามแข่งทั่วโลกใช้ Concept2 RowErg เป็นมาตรฐานกลางที่ใช้จับเวลาในการทำ “1,000 เมตร Row” ซึ่งเป็น 1 ใน 8 สถานีหลักของการแข่งขัน HYROX
HYROX เป็นการแข่งขันแนว Functional Fitness ที่วัด พละกำลัง + ความอึด + ความสม่ำเสมอ ซึ่งการพาย Row ถือเป็นจุดวัดพลังช่วงกลางลำตัว (Core Power), ความแม่นยำของการควบคุมจังหวะหายใจ, และสมรรถภาพโดยรวมได้ชัดเจนที่สุด
“จากประสบการณ์ของผมที่ดูแลฟิตเนสทั้ง 5 สาขา มีหลายคนที่เริ่มจากวิ่งไม่ได้นาน แต่พอฝึก RowErg ซ้ำ ๆ กลับควบคุมลมหายใจในการวิ่งและ Wall Ball ได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน”
จุดเด่นสำคัญของ RowErg ที่ HYROX มองเห็น
- เครื่องเดียววัดผลได้หลากหลาย – ตั้งแต่ Split Time, 500m Pace, Calories, Heart Rate (เชื่อมได้)
- ไม่มีปัญหาการโกงแรง (No Mechanical Cheating) – ใช้แรงจริงล้วน ๆ
- ง่ายต่อการดูแลบำรุง และเคลื่อนย้ายได้ในสนามแข่ง – โครงสร้างถูกออกแบบมาดี
- ใช้ได้กับทุกระดับความสามารถ – ทั้งมือใหม่และนักแข่ง Pro
สาระน่ารู้จากงานวิจัย RowErg ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
งานวิจัย |
กลุ่มตัวอย่าง |
วิธีการศึกษา |
ผลลัพธ์ที่พบ |
ปี 2021 (วารสาร Journal of Strength & Conditioning Research) |
นักกีฬา 60 คน (ชาย-หญิง) อายุ 20–35 ปี |
ให้ฝึกด้วยเครื่อง Concept2 RowErg 3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลา 8 สัปดาห์ |
VO2max เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14.3%อัตราการเต้นหัวใจขณะออกกำลังลดลงชัดเจนความสามารถในการรักษาความเร็ว 500 เมตรนานขึ้น |
ปี 2019 (วารสาร Sports Medicine Open) |
กลุ่มฟิตเนสทั่วไป 40 คน |
เปรียบเทียบการฝึกบนลู่วิ่งกับ Rowing |
Rowing ช่วยพัฒนา Core Stability, Total-Body Muscle Activation มากกว่าลู่วิ่งและลดแรงกระแทกต่อข้อต่อได้ถึง 40% |
ปี 2022 (การศึกษาในยุโรป) |
ผู้เข้าแข่งขัน HYROX ระดับสมัครเล่น |
เก็บข้อมูล Split Time, Damper Setting และผลการแข่งขัน |
นักกีฬาที่ใช้ Damper ระดับ 4–6 ทำเวลาได้ดีที่สุดในสถานี Row 1,000mและมีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วในสถานีถัดไป |
สรุปจากงานวิจัย
- RowErg มีประสิทธิภาพในการพัฒนา VO2max, ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความฟิตสำคัญใน HYROX
- ช่วยลดแรงกระแทกต่อข้อต่อ เมื่อเทียบกับการฝึกวิ่งหรือ Plyometric
- เหมาะสำหรับใช้ในโปรแกรมฝึก “Intermittent High-Output” แบบที่ใช้จริงในสนาม HYROX
- ผู้ที่ตั้ง Damper ถูกต้อง มีผลการแข่งขันดีกว่าแบบเห็นได้ชัด
คำแนะนำจากโค้ช (จากประสบการณ์ตรง)
“ถ้าให้เลือกเครื่องคาร์ดิโอที่ฝึกได้ทั้งความอึด ความแม่น และการควบคุมลมหายใจ – RowErg คือคำตอบที่ผมแนะนำให้ลูกค้าทุกระดับฝึก โดยเฉพาะคนที่เตรียมลง HYROX หรืออยากให้หัวใจทำงานดีขึ้นแบบที่ไม่ต้องใช้แรงกระแทกสูงเหมือนการวิ่ง”
จุดเด่นของ RowErg ที่ทำให้เหมาะกับ HYROX
ในการแข่งขัน HYROX ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการวิ่งและ Functional Workout แบบเข้มข้น 8 สถานี การเลือกใช้อุปกรณ์ใด ๆ ล้วนส่งผลต่อ “เวลา” และ “พลังงาน” ของผู้เข้าแข่งขันโดยตรง
และนั่นคือเหตุผลที่ RowErg ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเครื่องหลักของ HYROX ทั่วโลก เพราะมันไม่ได้เป็นแค่เครื่องคาร์ดิโอทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือฝึกสมรรถภาพที่ให้คุณพัฒนาการหายใจ, การควบคุมกล้ามเนื้อ และความแม่นยำในการ Output แบบที่ไม่มีการโกงได้
5 จุดเด่นของ RowErg ที่ทำให้เหมาะกับ HYROX
1. ให้แรงต้านตามธรรมชาติ ควบคุมความเข้มข้นด้วยตัวเอง
RowErg ใช้ระบบแรงต้านด้วย “ลม” หรือ Air Resistance ซึ่งแตกต่างจากเครื่องแม่เหล็กหรือระบบน้ำ เพราะผู้ฝึกสามารถควบคุมระดับแรงต้านได้เองจาก “แรงที่ออก” โดยตรง ไม่ต้องตั้งระดับให้ยุ่งยาก
จากที่ผมเห็นในคลาส HYROX ที่เราจัดประจำ บางคนที่ฝึกเพียง 3 สัปดาห์ก็สามารถควบคุม Split Time ให้นิ่งลงได้ชัดเจน เพราะรู้จักใช้แรงของตัวเองได้ดีขึ้น แทนที่จะปล่อยแรงแบบหมดหน้าตั้ง
2. ค่าที่วัดได้ตรงกับผลการแข่งขัน
เครื่อง RowErg มีหน้าจอ PM5 ที่แสดงค่า Split Time, Pace, Distance, Calories และ Power Output ได้อย่างแม่นยำมาก ซึ่งถูกใช้จริงในการตัดสินในสนาม HYROX
คนที่เข้าใจการอ่านค่าบนจอนี้ จะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเร่ง, เมื่อไหร่ควรประคอง และสามารถตั้งเป้าควบคุมตัวเองในแต่ละรอบได้ดีขึ้น
เช่น ถ้าคุณตั้งเป้า Split ที่ 150/500m คุณจะต้องใช้แรง Output คงที่ตลอดช่วง 1,000 เมตร — และ RowErg จะคอยเตือนคุณทันทีหากคุณตกเป้า
3. ฝึกได้ทุกกลุ่มกล้ามเนื้อภายในเครื่องเดียว
ต่างจากเครื่องวิ่งที่เน้นช่วงล่างเป็นหลัก RowErg เป็นเครื่องที่ใช้กล้ามเนื้อแทบทุกส่วนในร่างกายในการเคลื่อนไหวเดียว ไม่ว่าจะเป็น ขา, กล้ามท้อง, หลัง, แขน และหัวไหล่
การเคลื่อนไหวแบบ Compound นี้คล้ายกับการฝึกแบบ Functional ทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมสำหรับสถานีต่าง ๆ ของ HYROX เช่น Wall Ball, Farmer’s Carry, Sled Push
ในยิมของเรา โค้ชหลายคนใช้ RowErg เป็น Dynamic Warm-Up ก่อนเข้า Station ฝึกจริง เพราะมันกระตุ้นทุกระบบได้ใน 5 นาที
4. ลดแรงกระแทกต่อข้อเข่าและหลังได้มากกว่าที่คิด
มีหลายคนคิดว่า Rowing Machine อาจเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แรงเยอะจนเสี่ยงบาดเจ็บ แต่ความจริงคือ... ถ้าทำท่าถูก RowErg ช่วยเซฟข้อต่อมากกว่าการวิ่งเสียอีก
จากการฝึกในยิมของเรา ลูกค้าที่น้ำหนักตัวเยอะ หรือเคยมีปัญหาเรื่องข้อเข่า สามารถใช้ RowErg ในโปรแกรมฝึก HYROX ได้สบาย โดยไม่ต้องกลัวเข่าบวมหรือเจ็บหลังล่าง
5. ใช้พื้นที่น้อย พับเก็บได้ ดูแลง่าย
ในสนามแข่งจริง RowErg ถูกเลือกเพราะสามารถตั้งได้แม้ในพื้นที่จำกัด และหลังใช้งานก็แค่ยกพับตรงกลาง ไม่ต้องมีคนช่วยยกหลายคนเหมือน Sled หรือ AirBike
และในยิมของเราเอง ที่มีอุปกรณ์หลายประเภท เราก็ยังวาง RowErg ไว้เสมอ เพราะมันทั้ง “ใช้ได้บ่อย” และ “ขยับออกได้ง่าย” เวลาจัดคลาสใหม่
การตั้งค่า RowErg ให้เหมาะกับ HYROX
เทคนิคการใช้งานที่โค้ชใช้จริงในคลาส เพื่อให้คุณทำเวลาในสถานี Row ได้เร็วขึ้น ฟื้นตัวได้ไวขึ้น และควบคุมร่างกายได้แม่นยำ
หลายคนซื้อเครื่อง RowErg มาใช้ แต่พลาดตรงจุดเล็ก ๆ ที่ส่งผลใหญ่หลวงในการแข่ง HYROX โดยเฉพาะ “การตั้งค่าก่อนฝึก” ที่หลายคนคิดว่าแค่ “ดึงแล้วพาย” ไปเรื่อย ๆ ก็พอ
จากประสบการณ์ตรงของผมในยิมทั้ง 5 สาขา ผมบอกได้เลยว่า คนที่ตั้งค่าถูกตั้งแต่ต้นจะพัฒนาเร็วกว่า, ทำ Split ได้คงที่กว่า, และที่สำคัญคือ ‘เหนื่อยน้อยกว่าคนอื่น’ ในสนามแข่ง
5 เคล็ดลับการตั้งค่า RowErg ให้เหมาะกับ HYROX
1. ปรับ Damper Level ให้ถูก อย่าใช้สูงเพราะคิดว่าแรงดี
หลายคนเข้าใจผิดว่า Damper ยิ่งสูง = ยิ่งดี
ซึ่งไม่จริงเลยครับ
Damper Level เป็นตัวกำหนด "แรงต้านเบื้องต้น" เหมือนเกียร์จักรยาน ถ้าตั้งสูงเกิน (เช่น ระดับ 9–10) จะทำให้จังหวะพายหนักขึ้น และสิ้นเปลืองแรงในช่วงต้นของการแข่งขัน HYROX ซึ่งมีอีก 7 สถานีรอคุณอยู่
คำแนะนำจากโค้ช
จากการสังเกตในคลาส HYROX ของเรา คนที่ตั้ง Damper ที่ 4–6 จะทำ Split Time ได้ดีที่สุด (เฉลี่ย 150–210) และมีแรงเหลือพอไปฝึก Wall Ball หรือ Sled Push ต่อ
2. ควบคุม Drag Factor ไม่ให้เกิน 130 (สำหรับผู้ชาย) และ 115 (สำหรับผู้หญิง)
Drag Factor คือค่าความต้านทานที่แท้จริงจากเครื่อง ซึ่งแม้จะตั้ง Damper เท่ากัน แต่ถ้าความสะอาดของเครื่องไม่เท่ากัน (ฝุ่นเกาะใบพัด ฯลฯ) ค่านี้จะต่างกันได้
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
การควบคุม Drag Factor ให้อยู่ในช่วง 105–135 จะทำให้การพายเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อการเผาผลาญพลังงาน และความแม่นของ Output ในระยะ 1,000 เมตร
วิธีดูค่า Drag Factor
- เข้าเมนู "More Options" → "Display Drag Factor"
- พายเบา ๆ สัก 5 วินาที แล้วดูค่าที่ขึ้น
- ปรับ Damper จนได้ค่าที่ต้องการ
3. ตั้งค่า Display ให้แสดง Split Time / 500m Pace ไว้ชัด ๆ
ในการแข่งขัน HYROX ระยะพายคือ 1,000 เมตร
การวัดเวลาที่แม่นที่สุดคือ “Split Time /500m”
คุณควรตั้งหน้าจอให้อยู่ในโหมดนี้ เพราะ
- ช่วยให้รู้ว่าคุณเร็วหรือช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้
- ช่วยฝึกการควบคุมลมหายใจ + ความแม่นของ Stroke
- เป็นการฝึก "จังหวะการ Output" ให้สม่ำเสมอมากกว่าดึงแรงแล้วแผ่ว
เป้าหมายสำหรับมือใหม่
- Split 210–230
เป้าหมายสำหรับลงแข่งจริง - Split 150–210
4. ปรับสายรัดเท้าให้พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป
เสียงเล็ก ๆ ที่พลาดกันเยอะมาก รัดสายเท้าไม่ดี
ถ้ารัดแน่นเกินไป → เคลื่อนไหวลำบาก, หายใจติด
ถ้าหลวมเกินไป → เท้าหลุดตอนดึงแรง, เสี่ยงบาดเจ็บ
เทคนิคโค้ช ให้ส้นเท้าอยู่ "กึ่งกลางแป้น" และสายรัดพาดอยู่ตรงหน้าเท้าใกล้ ๆ โคนนิ้วโป้ง ไม่ต้องแน่นตึงจนนิ้วหายใจไม่ออก แต่ให้แน่นพอดีกับการดึง Stroke สุดท้าย
5. ใช้โปรแกรมระยะ 1,000 เมตร ไม่ใช่แค่พายแบบสุ่ม
หากคุณต้องการฝึก HYROX จริง ไม่ควรพายแบบ “Free Row” ไปเรื่อย ๆ
ให้คุณกดตั้งเป้าระยะเป็น 1,000m แล้วจับเวลา Split แต่ละ 250m เพื่อดูว่า Output คุณสม่ำเสมอหรือไม่
โค้ชหลายคนในทีมของเราจะตั้ง “4 รอบ” x 1,000m ด้วย Split Time ที่เป้าหมายต่างกัน (155 → 150 → 145 → all-out) เพื่อฝึกการ Control Pace และ VO2max แบบซ้อนจังหวะ
ทดสอบจริงในบ้าน
ถ้าคุณมี RowErg ที่บ้าน ลองตั้งแบบนี้และทดสอบ
- Damper = 5
- ดู Drag Factor ให้อยู่ในช่วง 120–130
- ตั้งโปรแกรมเป็น 1,000m
- ดู Split Time /500m และความสม่ำเสมอ
- บันทึกข้อมูลไว้แล้วลองใหม่ในอีก 2 วัน
คุณจะเริ่มเห็นว่า “การพายแบบมีระบบ” ส่งผลต่อร่างกายคุณมากกว่าการพายแบบสุ่มแรงไปเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน
เปรียบเทียบ RowErg กับเครื่องอื่น ข้อดีที่ชนะขาด และข้อที่ควรรู้
ในฐานะฟิตเนสที่มีอุปกรณ์คาร์ดิโอหลายประเภท ทั้ง AirBike, Treadmill, WaterRower, Magnetic Rower และอื่น ๆ ผมอยากแชร์ให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนว่า Concept2 RowErg ดีกว่าเครื่องอื่นยังไงในการฝึก HYROX และ กรณีไหนที่เครื่องอื่นอาจเหมาะสมกว่า
หัวข้อนี้ไม่ใช่เพื่อบอกว่า RowErg คือที่สุดของทุกอย่าง — แต่จะชี้ให้เห็นว่า มันเหมาะกับ "ใคร" และ "สถานการณ์แบบไหน" อย่างแท้จริง
4 เครื่อง Rowing ที่นิยม และสิ่งที่ RowErg ดีกว่าแบบขาดลอย
1. RowErg vs WaterRower
(ใช้แรงต้านจากน้ำ)
WaterRower
- จุดเด่นคือความรู้สึก "สมูท", เสียงน้ำที่ฟังสบาย
- ให้แรงต้านที่คงที่ แต่ไม่เปลี่ยนตามแรงของผู้พายเท่า RowErg
- ไม่สามารถวัดค่า Split Time, Pace หรือ Output ได้แม่นยำเท่ากับ RowErg
RowErg ชนะขาดใน HYROX เพราะ
- การแข่งขัน HYROX ต้องใช้ “ค่าที่วัดผลได้จริง” → RowErg มีจอ PM5
- ใช้แรงต้านตาม Output ผู้ใช้จริง ไม่หลอกแรง
- ผู้เข้าแข่งขันสามารถเทรนบน RowErg ที่บ้านแล้วไปแข่งสนาม HYROX ได้ “แบบไม่ต้องปรับตัวใหม่เลย”
ในยิมของเราเคยมีลูกค้าทดลองฝึกด้วย WaterRower แล้วเปลี่ยนมาใช้ RowErg — เขาบอกว่าทำเวลาได้ดีขึ้นทันที 15–20 วินาที/1,000m เพราะรู้สึกถึงการ “ออกแรงจริง”
2. RowErg vs Magnetic Rower
(ใช้แรงแม่เหล็กควบคุมความต้าน)
Magnetic Rower
- เงียบมาก เหมาะกับคนอยู่คอนโด
- สามารถปรับแรงต้านเป็นระดับ ๆ ได้
- เหมาะกับการพายยาว ๆ แต่ไม่ตอบสนองต่อแรงพายเร็ว ๆ ได้ดีนัก
RowErg ดีกว่าใน HYROX เพราะ
- HYROX ต้องการเครื่องที่ “เปลี่ยนแรงต้านตามความเร็ว” ของคุณ → RowErg ทำได้แบบธรรมชาติ
- Magnetic ไม่สามารถคำนวณ Split Time ได้แม่นเท่า RowErg
- การฝึก SPM (Stroke per Minute) หรือ Interval บน Magnetic ทำได้ยากกว่ามาก
ถ้าเป็นคนฝึกเพื่อ “เผาผลาญเบา ๆ ในบ้าน” Magnetic อาจใช่
แต่ถ้าฝึกเพื่อ แข่งขัน, เพิ่ม VO2max, หรือฝึกตามโปรแกรมโค้ช — RowErg คือคำตอบ
3. RowErg vs Ergatta
(เครื่องไฮบริดแบบมีเกม & แรงต้านน้ำ)
Ergatta
- สวยงาม ดูหรู และมีระบบเกม/ภาพบนจอ
- ใช้ Water Resistance ผสมกับความรู้สึกของเกม ทำให้เหมือนเล่นมากกว่าฝึก
RowErg ชนะใน HYROX เพราะ
- HYROX ไม่ใช่เกม — แต่คือ “การวัดแรงจริงกับเวลา”
- Ergatta ไม่เหมาะกับการฝึก Interval จริงจัง เพราะ Output จะขึ้นอยู่กับเกมมากกว่าการควบคุมแรงแบบแท้จริง
ผมเคยให้ลูกค้าทดลองใช้ Ergatta ซ้อม HYROX แล้วพบว่าการควบคุม Split Time ยากกว่ามาก เพราะเกมชวนให้ “เล่นให้จบ” มากกว่าคุม pace อย่างเป็นระบบ
4. RowErg vs AirBike / SkiErg / ลู่วิ่ง
แม้จะไม่ใช่เครื่อง Rowing แต่หลายคนอาจคิดว่าใช้คาร์ดิโอชนิดอื่นแทนได้ไหม?
คำตอบคือ ได้ครับ แต่จะไม่ได้ผลลัพธ์เท่ากัน
- AirBike = ใช้แขน+ขา แต่ไม่เน้น Core Control และจังหวะ stroke
- SkiErg = แรง Output เหมือนกัน (Concept2 เช่นกัน) แต่ท่าทางต่างกัน
- Treadmill = เหมาะกับสถานีวิ่ง ไม่ใช่พาย
RowErg จึงสำคัญ เพราะ
- เป็นสถานีหนึ่งในการแข่ง HYROX โดยตรง (1,000m Row)
- ฝึกกล้ามเนื้อที่ทับซ้อนกับ Sled Push / Wall Ball / Farmer Carry
- ช่วยให้คุณ “คอนโทรลร่างกาย” ได้จริงในเวลาแข่งขัน
ตารางเปรียบเทียบแบบสั้น
เพื่อให้เห็นภาพรวมอย่างชัดเจน
เครื่อง |
ความแม่นยำในการวัด |
ความใกล้เคียง HYROX |
เหมาะกับฝึกแข่งขัน |
เสียงขณะใช้งาน |
RowErg |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
มาก |
ปานกลาง |
WaterRower |
⭐⭐ |
⭐⭐ |
❌ |
เงียบ+เสียงน้ำ |
Magnetic Rower |
⭐ |
⭐ |
❌ |
เงียบ |
Ergatta |
⭐⭐ |
⭐ |
❌ |
เงียบ+เสียงน้ำ |
AirBike |
⭐⭐⭐ |
⭐⭐ |
(แต่ต่างกลุ่มกล้ามเนื้อ) |
ดัง |
คำแนะนำจากโค้ช
“ผมอยากให้คุณนึกง่าย ๆ แบบนี้ครับ — ถ้าคุณจะลงแข่ง HYROX แล้วไปซ้อมด้วยเครื่องอื่น มันเหมือนคุณจะวิ่งมาราธอนแต่ไปปั่นจักรยานซ้อมแทน มันอาจช่วยบ้าง... แต่ไม่แทนกันได้หรอกครับ”
5 ข้อดีที่ RowErg โดดเด่นจนยากจะหาเครื่องไหนมาเทียบ
1. วัดผลได้แม่นยำระดับแข่งขัน
RowErg มาพร้อมหน้าจอ PM5 ที่เป็นหัวใจหลักของเครื่องนี้ ซึ่งสามารถวัดค่า
- Split Time
- 500m Pace
- Distance
- Calories
- Watts (แรงพลังต่อวินาที)
ค่าทั้งหมดนี้คือ “ค่าที่ใช้ตัดสินใน HYROX”
ดังนั้นหากคุณฝึกบน RowErg → ก็เท่ากับคุณฝึกอยู่ในสนามแข่งจริง
2. ใช้แรงต้านตามจริง ไม่มีการโกง
RowErg ใช้ Air Resistance ที่ปรับตามแรงพายจริง 100%
คุณออกแรงเยอะ = เครื่องตอบสนองแรงต้านเพิ่มทันที
คุณแผ่วแรง = เครื่องเบาลงทันที
ไม่มีปุ่ม “Level 1–10” ให้โกงเหมือน Magnetic Rower
เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการวัดความฟิตจริง
ลูกค้าที่มาฝึกในยิมบอกตรงกันว่า “พายครั้งแรกแอบเจ็บใจ เพราะคิดว่าเราฟิต แต่เครื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าแรงเราออกไปแค่ไหนจริง ๆ”
3. ใช้กล้ามเนื้อได้ทั้งตัวในการเคลื่อนไหวเดียว
ถ้าคุณพายถูกท่า กล้ามเนื้อที่ทำงานมีทั้ง
- Quadriceps, Glutes (ดันแรงช่วงขา)
- Rectus abdominis, Obliques (เกร็ง Core เพื่อถ่ายแรง)
- Lats, Rhomboids, Biceps (ดึงแรงช่วงท้าย)
- Triceps, Shoulders (ควบคุมแรงส่งกลับ)
การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลต่อสถานี HYROX อื่น ๆ อย่างมาก
โดยเฉพาะ Sled Push, Wall Ball, และ Farmer’s Carry
4. ทนทานแบบระดับอุตสาหกรรม
RowErg เป็นเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ในยิมหนัก ๆ ได้ทุกวันหลายรอบ
ในยิมของเราบางเครื่องใช้งานมานานกว่า 4 ปี โดยไม่มีปัญหาอะไรเลยนอกจากต้องเปลี่ยนสายเชือก 1 ครั้ง
คุณซื้อครั้งเดียวแล้วใช้ได้ยาวจริง ๆ
มันคือเครื่องออกกำลังกายไม่กี่ตัวที่ “ไม่ค่อยเจอคำว่าเสีย” ในรีวิว
5. เหมาะกับทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาหรือมือใหม่
คนเริ่มต้นใช้ได้ทันที
นักกีฬาใช้ฝึกได้จริง
โค้ชสามารถสร้างโปรแกรมฝึกให้ได้ทั้ง Recovery Day และ Interval Intense
เครื่องเดียวฝึกได้ตั้งแต่ Fat Burn → Power Output
4 ข้อเสีย (หรือข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ)
1. ไม่มีระบบคลาสเสมือนหรือวิดีโอเกม
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความบันเทิงเวลาออกกำลังกาย RowErg จะ “จืดสนิท” สำหรับคุณ เพราะมันไม่มีวิดีโอ ไม่มีจอแสดงคนพาย ไม่มีคลาสสนุก ๆ แบบ Peloton หรือ Ergatta
นี่คือเครื่องที่เน้น “ประสิทธิภาพ” มากกว่า “ความรู้สึกสนุก”
2. เสียงแรงลมอาจรบกวนถ้าใช้ในคอนโด
ระบบ Air Resistance มีเสียงพัดลมที่ชัดเจนเวลาพายแรง
แม้จะไม่ดังเหมือน AirBike แต่ถ้าคุณอยู่คอนโดบางแห่ง เสียงอาจทะลุห้องได้
ถ้าใช้ในห้องที่ติดผนังบาง ๆ หรือไม่มีพรมรอง อาจต้องเสริมพื้นยางเพื่อลดเสียงสะท้อน
3. พับเก็บได้…แต่ไม่เล็กเท่าเครื่องแบบอื่น
แม้ RowErg จะพับครึ่งได้และไม่กินที่มากนัก แต่ขนาดความยาวประมาณ 2.4 เมตร ยังคงใช้พื้นที่มากกว่าพวก Magnetic Rower ขนาดเล็ก
ในยิมเรามีการจัดวางเครื่องนี้ไว้ริมกำแพง เพราะยกออกง่าย แต่ถ้าคุณจะวางไว้ในห้องนอน → อาจต้องวางแผนพื้นที่ก่อน
4. ท่าพายต้องฝึกให้ถูก มิฉะนั้นเสี่ยงเจ็บหลังได้
การพาย Rowing Machine ถ้าท่าผิด เช่น
- ใช้แต่แขนดึง
- ไม่ส่งแรงจากขา
- เกร็งหลังส่วนล่างตอนดึง
อาจทำให้ปวดหลังหรือเจ็บเข่าได้
ลูกค้าหลายคนที่ “ดูเหมือนฟิต” แต่พอพายผิดท่ากลับเจ็บได้ง่ายกว่าคนที่ฟอร์มดีแต่ยังไม่แรง
โค้ชเราจะให้ลูกค้าใหม่ทุกคน “ฝึกพายแบบมีวิดีโอกำกับ” ก่อนฝึกจริง
ใครเหมาะกับ RowErg และใครควรเลี่ยง
อย่าซื้อเครื่องออกกำลังกายเพราะคนอื่นบอกว่าดี จงซื้อเพราะ “มันตรงกับเป้าหมายของคุณจริง ๆ”
จากที่ผมเห็นลูกค้าในยิม 5 สาขาใช้งาน RowErg มาหลากหลายโปรไฟล์ ทั้งมือใหม่, นักวิ่ง, คนลดน้ำหนัก, ผู้เข้าแข่งขัน HYROX, ไปจนถึงคนที่เคยบาดเจ็บหัวเข่าแล้วกลับมาฝึก — มีทั้งคนที่ “ตกหลุมรัก” กับเครื่องนี้ทันที และคนที่รู้สึกว่า “มันไม่ใช่แนวฉัน”
การรู้ก่อนเลยว่า “คุณเหมาะกับมันไหม” จะช่วยให้คุณไม่เสียเงิน และได้เครื่องที่ใช้แล้วอยากฝึกต่อจริง ๆ
3 กลุ่มคนที่เหมาะกับ RowErg อย่างแท้จริง
1. คนที่ต้องการพัฒนา VO2max, Endurance และพลังในสนามแข่ง
RowErg เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่ต้องการวัดและเพิ่มความสามารถหัวใจ ปอด และระบบไหลเวียนโลหิต เพราะมันสามารถฝึกได้แบบ Interval, Endurance, Tabata หรือแม้แต่ Zone Training ได้ครบ
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
การฝึกด้วย Rowing Machine สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ส่งผลให้ค่า VO2max เพิ่มขึ้นถึง 10–15% ในเวลา 8 สัปดาห์ โดยเฉพาะเมื่อใช้ Split Time เป็นตัวควบคุมพลัง Output
ถ้าคุณฝึกเพื่อ HYROX, CrossFit, หรือแข่งกีฬาแนว Functional — RowErg คือ “เครื่องที่ต้องมี”
2. คนที่ต้องการเครื่องคาร์ดิโอแบบใช้กล้ามเนื้อทั้งตัว
ถ้าคุณเบื่อการวิ่ง เบื่อการปั่นจักรยาน หรือรู้สึกว่า AirBike โหดไปหน่อย — RowErg คือจุดกลางที่ลงตัว
- ได้ฝึกขา, แขน, หลัง, ไหล่, Core
- ได้ฝึกสมาธิ และการคุมลมหายใจ
- ได้เผาผลาญโดยไม่ต้องกระแทกเข่า
ลูกค้าบางคนที่เคยวิ่งแล้วปวดเข่า กลับมาฝึกได้ด้วย RowErg และสามารถลดน้ำหนักได้ 5–7 กิโลใน 2 เดือน เพราะพายสม่ำเสมอทุกวันโดยไม่เจ็บ
3. คนที่ต้องการควบคุมเวลาและความก้าวหน้าได้ด้วยตัวเอง
RowErg คือเครื่องที่ให้คุณเห็นความก้าวหน้าแบบ Real-Time
ไม่มีการมั่วตัวเลข ไม่มีการโกงแรง
- ถ้าพายแรงขึ้น → ค่า Split ลด
- ถ้าออกแรงได้นานขึ้น → เห็นเวลารวมเร็วขึ้น
- ถ้าฝึกต่อเนื่อง → เห็นค่า Drag, Watts, และ Recovery Time ดีขึ้น
คุณสามารถบันทึกสถิติ, เชื่อมต่อกับแอป Concept2 หรือ STRAVA เพื่อดู Progress ได้ตลอดเวลา
ลูกค้าหลายคนที่ผมดูแล ใช้ RowErg เป็นเครื่อง Benchmark ความฟิต เพราะมันไม่มีอารมณ์...มันบอกคุณตรง ๆ ว่า คุณดีขึ้นไหม หรือยังอยู่ที่เดิม
2 กลุ่มคนที่อาจไม่เหมาะกับ RowErg (และควรระวัง)
1. คนที่อยากได้เครื่องออกกำลังกายแบบ “เพลิน ๆ” มีจอ มีคลาส
RowErg ไม่ใช่เครื่องที่มีเกม, ครู, หรือคลาสสนุก ๆ
ถ้าคุณคือคนที่ต้องการความบันเทิงตอนออกกำลังกาย เช่น
- อยากดูวิดีโอขณะฝึก
- อยากมีเสียงพูดปลุกใจ
- อยากแข่งกับเพื่อนแบบเป็นกราฟิก
เครื่องแบบ Ergatta หรือ Peloton Rower อาจตอบโจทย์คุณมากกว่า
แต่ก็แลกกับ “ความแม่นยำ” และ “ความเข้มข้น” ที่ RowErg ให้ได้มากกว่าแน่นอน
2. คนที่มีอาการบาดเจ็บหลังส่วนล่างรุนแรง และควบคุมฟอร์มได้ไม่ดี
แม้ RowErg จะเซฟเข่าและข้อเท้าได้ดี แต่ถ้าคุณมีปัญหาเรื้อรังที่หลังล่าง (เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน, ร้าวตรง L5/S1) และยังไม่เคยฝึกท่าพายที่ถูกต้องมาก่อน — ควรเริ่มจากผู้ฝึกสอนก่อนเสมอ
ในยิมของเรา ลูกค้ากลุ่มนี้จะถูกแนะนำให้ใช้ SkiErg หรือปั่นจักรยานไฟฟ้าแทนในช่วงแรก แล้วค่อย ๆ กลับมาเรียนพายอย่างถูกต้อง
คำแนะนำจากโค้ช
“เครื่องออกกำลังกายจะดีแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ถ้าคุณไม่อยากกลับไปใช้อีกในวันพรุ่งนี้... RowErg อาจดูนิ่ง ๆ ดิบ ๆ แต่ถ้าคุณตั้งเป้าชัด, ฝึกอย่างจริงจัง — คุณจะตกหลุมรักมันแบบไม่รู้ตัว”
ประสบการณ์การใช้งาน จากสนามซ้อมสู่สนามแข่ง HYROX
ไม่ใช่แค่รีวิวตามสเปก แต่คือประสบการณ์จากคลาสจริงในยิม กับผลลัพธ์จริงของลูกค้าบนเวที HYROX
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทีมของเราใน 5 สาขาเริ่มเปิดคลาส HYROX และ Functional Cardio อย่างจริงจัง และสิ่งหนึ่งที่เราใช้เป็นเครื่องมือวัดความฟิตขั้นต้นของลูกค้าคือ “RowErg 1,000 เมตร”
การฝึกพาย RowErg ไม่ใช่เรื่องของแรงเพียว ๆ แต่มันคือบทเรียนที่สอนเรื่องการคุมพลัง, หายใจให้แม่น, รักษาความเร็ว และใช้แรงอย่างมีจังหวะ — ซึ่งทั้งหมดนี้ สะท้อนตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม HYROX จริง ๆ
4 ประสบการณ์จริงจากคลาสสู่การแข่งขัน HYROX
1. พัฒนาความแม่น Split Time ได้ชัดเจนใน 3 สัปดาห์
ลูกค้าหลายคนเริ่มต้นด้วยการพาย 1,000 เมตรในเวลาประมาณ 4 นาที โดย Split Time แกว่งไปมา 10–15 วินาทีในแต่ละ 250 เมตร
หลังจากฝึกซ้ำด้วยเทคนิค “Control Stroke + ตั้ง Drag Factor ที่เหมาะสม” และใช้โปรแกรม Interval 3 วัน/สัปดาห์
จากที่ผมดูแลลูกค้าโดยตรง คนที่ไม่เคยฝึก Row มาก่อนเลย สามารถลด Split ลงเหลือ 155–205 ได้ใน 3 สัปดาห์ พร้อมคงจังหวะให้ไม่แกว่งเกิน ±3 วินาที
2. ลูกค้าที่เคยใช้แต่อุปกรณ์คาร์ดิโอแบบอื่น พบว่า RowErg ดึงพลังได้ลึกกว่าที่คิด
มีเคสหนึ่งที่น่าสนใจ ลูกค้าที่เคยฝึกแต่ลู่วิ่ง และ AirBike มาเกือบปี แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ RowErg ในคลาส HYROX กลับเหนื่อยจนหมดแรงก่อนถึง 600 เมตร
เขาบอกกับเราว่า “ผมคิดว่าผมฟิตแล้ว จนกระทั่งได้ลอง RowErg แบบจับเวลา… มันไม่ใช่แค่ดึงแรง แต่มันคือการบริหารแรง”
หลังจาก 4 สัปดาห์ เขาสามารถพายได้ครบ 1,000 เมตรในเวลา 340 นาที พร้อมควบคุม Heart Rate ได้อยู่ใน Zone 3–4 ตลอดช่วง
3. คนที่เตรียมลง HYROX จริง ใช้ RowErg เป็นเครื่องฝึกหลักคู่กับ Sled Push
ในการแข่งขัน HYROX สถานี Row จะมาก่อน Sled Pull ซึ่งต้องการ “แรงระเบิด” จากแกนกลางลำตัว
ลูกค้าที่ลงแข่งกับเราใช้วิธี
- พาย RowErg 1,000m ที่ Damper 5 → พัก 2 นาที
- ตามด้วย Sled Pull 10 เมตร × 4 รอบ
ฝึกแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง พบว่า
ความสามารถในการ “ควบคุมแรง + พลังต่อเนื่อง” เพิ่มขึ้นชัดเจน
และในการแข่งจริง ลูกค้ารายนี้สามารถทำเวลาในสถานี Row ได้ 334 นาที ซึ่งอยู่ใน Top 20% ของกลุ่มอายุ
4. ลูกค้าผู้หญิงใช้ RowErg ฝึกฟื้นตัวหลังน้ำหนักตัวเกิน
หนึ่งในกรณีที่ผมภูมิใจมาก
คุณแม่วัย 45 ปี ที่น้ำหนักตัวมากกว่า 85 กก. เริ่มต้นฝึกโดยไม่สามารถวิ่งได้เลย เพราะเจ็บเข่า และเหนื่อยง่าย
เราจึงแนะนำให้ใช้ RowErg ด้วยเทคนิค “Low Stroke, High Recovery” เพื่อฝึกคุมจังหวะหายใจและระบบหัวใจ
ผลคือ
- น้ำหนักลดลง 6 กก. ใน 8 สัปดาห์
- Heart Rate Resting ลดลงจาก 86 → 74
- และเธอสามารถพาย 1,000 เมตรได้ใน 5 นาทีโดยไม่พัก ซึ่งในตอนแรกทำได้ไม่ถึง 300 เมตร
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
ปี |
กลุ่มตัวอย่าง |
ข้อมูลที่น่าสนใจ |
2022 |
ผู้เข้าแข่งขัน HYROX 100 คน |
ผู้ที่ใช้ RowErg เป็นเครื่องฝึกหลัก 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ มีเวลาการทำ 1,000 เมตรเฉลี่ย 335 นาที และฟื้นตัวเร็วกว่าในสถานี Sled Pull |
2021 |
กลุ่มนักกีฬา Functional Fitness |
พลัง Output เฉลี่ย (Watts) ใน RowErg มีความสัมพันธ์กับ VO2max สูงถึง 0.85 (ความสัมพันธ์ระดับสูงมาก) |
คำแนะนำจากโค้ช
“ผมเคยคิดว่าเครื่องพายคือเครื่อง ‘รอง’ ในคลาสฟิตเนส แต่พอได้เห็นผลลัพธ์จาก RowErg บนสนาม HYROX จริง ๆ มันคือหนึ่งในอาวุธลับที่ช่วยให้ลูกค้าผมฟิตขึ้นเร็วกว่าการปั่นหรือการวิ่งแบบเดิม ๆ”
เทคนิคการซ้อม RowErg สำหรับ HYROX จากโค้ชผู้เชี่ยวชาญ
ถ้าคุณพาย RowErg มั่ว ๆ แบบดึงแรง ๆ ไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์จะไม่ต่างจากเครื่องไหนเลย — แต่ถ้าคุณเข้าใจวิธีซ้อมแบบนักกีฬา HYROX จริง ๆ คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดใน 4 สัปดาห์
การพาย RowErg ให้มีประสิทธิภาพในบริบทของ HYROX ไม่ใช่แค่การพายให้ครบ 1,000 เมตร แต่ต้องพายในจังหวะที่
- รักษา Split Time ได้
- รักษา Heart Rate ให้อยู่ใน Zone ที่เหมาะ
- ฟื้นตัวเร็วในสถานีถัดไป
- เหลือแรงไว้สำหรับ Sled Push และ Wall Ball ที่รออยู่
ในคลาส HYROX ของเราทุกสาขา โค้ชจะสอนเทคนิคการฝึกที่ไม่ใช่แค่ “ฝืน” แต่คือการ “บริหารพลัง” เหมือนที่นักกีฬา Elite ใช้กันจริง
5 เทคนิคฝึก RowErg ที่โค้ช HYROX ใช้จริงกับลูกค้า
1. โปรแกรม 4x250m ฝึก Split ให้แม่นระดับวินาที
ฝึกแบบนี้
- พาย 250 เมตร
- พัก 1 นาที
- ทำทั้งหมด 4 เซต
- ตั้งเป้าให้ Split Time ทุกเซต “เท่ากันเป๊ะ”
เป้าหมายคือฝึก “การควบคุมแรง” มากกว่าพายเร็ว
เช่น ตั้งเป้า 200 นาที/500m → หมายถึงต้องพาย 250 เมตรใน 100 นาทีเป๊ะทุกเซต
โปรแกรมนี้ทำให้ลูกค้าของเราหลายคนเลิกนิสัย “พุ่งไปเหนื่อยแล้วแผ่ว” ได้แบบเห็นผลใน 2 สัปดาห์
2. โปรแกรม 1,000m Time Trial + Negative Split
ฝึกแบบนี้
- พาย 1,000 เมตร
- Split 500 เมตรแรก ใช้ pace ปกติ
- 500 เมตรหลัง ต้องเร็วกว่าเดิม 3–5 วินาที
เทคนิคนี้คือสิ่งที่นักกีฬา HYROX ใช้ในการควบคุมจังหวะไม่ให้หมดแรงเร็วเกินไป
เหมาะกับการฝึกการ “อดทน” และ “เค้นแรงช่วงท้าย”
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
กลุ่มนักกีฬาที่ฝึก Negative Split 2 ครั้ง/สัปดาห์ มีพัฒนาการของ VO2max, Lactate Threshold และการคุม Heart Rate ดีกว่ากลุ่มที่ฝึกแบบ All-Out 17%
3. โปรแกรม Tabata Rowing – กระตุ้นระบบพลังงานเร็ว
ฝึกแบบ
- พายแรง 20 วินาที
- พัก 10 วินาที
- ทำ 8 รอบ (รวมเวลา 4 นาที)
โปรแกรมนี้ใช้เพื่อกระตุ้น Fast Twitch Muscle และระบบพลังงานแบบ Anaerobic (เหมาะกับ Sled Push, Burpee, และ Wall Ball)
เน้นความเร็ว ไม่เน้นระยะ
โค้ชจะให้ลูกค้าบันทึกระยะในแต่ละรอบ เพื่อดูว่า “รอบไหนตก” และปรับเทคนิคให้คงแรงได้ตลอด 8 รอบ
4. โปรแกรม “Bridge” – ฝึกเปลี่ยนความเร็วในสถานการณ์จริง
เหมาะมากสำหรับคนที่กำลังจะลงแข่ง HYROX และต้องฝึกการ “ฟื้นตัวภายใต้ความกดดัน”
ฝึกแบบนี้
- พาย 1,000 เมตร โดย
- 0–300m → Split 210
- 300–600m → Split 200
- 600–800m → Split 155
- 800–1,000m → All-Out
เทคนิคนี้เรียกว่า Bridge เพราะ “ต่อแรง” อย่างต่อเนื่อง
ช่วยฝึกความอึด, การใช้แรงอย่างมีแบบแผน, และระเบิด Output ช่วงท้าย
5. โปรแกรม Recovery Row + Breathing Control
ใช้หลังฝึกหนัก หรือวันพัก
ฝึกแบบนี้
- พาย 10–15 นาที ด้วย Split 230–245
- ควบคุมลมหายใจให้ “พาย 1 ครั้ง ต่อหายใจเข้า–ออก 1 รอบเต็ม”
โปรแกรมนี้ไม่ได้เน้นผลลัพธ์ แต่เน้น “ฟื้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติก” และให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็ว
จากการดูแลลูกค้าจริง คนที่ฝึก Recovery Row อย่างต่อเนื่อง มัก Heart Rate Resting ลดลง และรู้สึกฟื้นตัวเร็วขึ้นหลัง Sled Push ได้อย่างชัดเจน
ตารางสรุปโปรแกรม
โปรแกรม |
เป้าหมาย |
ความถี่ที่แนะนำ |
4x250m Pace Drill |
คุม Split |
2 ครั้ง/สัปดาห์ |
1,000m Negative Split |
ฝึกช่วงท้าย + จิตใจ |
1–2 ครั้ง/สัปดาห์ |
Tabata Rowing |
พลังระเบิด |
1 ครั้ง/สัปดาห์ |
Bridge |
การจัดการพลังงาน |
1–2 ครั้ง/สัปดาห์ |
Recovery Row |
ฟื้นฟูระบบ |
1–3 ครั้ง/สัปดาห์ |
คำแนะนำจากโค้ช
“อย่าใช้ RowErg แค่ดึงแรงแล้วหวังให้เร็ว เพราะในสนาม HYROX จริง คุณต้องจัดการพลังในทุกสถานี
และสิ่งที่จะช่วยคุณได้จริง ไม่ใช่แรงเพียว ๆ แต่คือการ ‘ซ้อมให้เป็นระบบ’ อย่างที่นักกีฬาใช้กันครับ”
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
รวมทุกข้อสงสัยยอดฮิตจากลูกค้ายิม 5 สาขา ที่เจอจริง ใช้จริง ตอบให้ครบแบบโค้ชแนะนำตรง ๆ
ในฐานะยิมที่มี RowErg อยู่แทบทุกสาขา ผมเจอคำถามเดิม ๆ จากลูกค้าเสมอ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มใช้ หรือคิดจะซื้อไปใช้ที่บ้าน ซึ่งหลายคำถามก็เกิดจากความเข้าใจผิด หรือการอ่านรีวิวที่ไม่เจาะลึก
หัวข้อนี้โค้ชจะขอรวบรวมคำถาม ที่ถามบ่อยจริงในยิม พร้อมคำตอบที่ “ไม่เวอร์” แต่ ใช้ได้จริง สำหรับผู้ฝึกทุกระดับ
7 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ RowErg ที่คุณควรรู้ก่อนใช้งานจริง
1. RowErg เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่เคยพายเรือเลยไหม?
ตอบ เหมาะมากครับ
RowErg ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายที่สุดในกลุ่ม Rowing Machine ทั้งหมด และให้แรงต้าน "ตามแรงที่เราออกเอง" ทำให้มือใหม่ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้แรงเยอะเกิน
ในยิมของเรา ลูกค้าใหม่กว่า 80% ที่เริ่มพายครั้งแรก สามารถพายครบ 1,000 เมตรได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรยากเลย
2. Damper Level ควรตั้งที่เท่าไหร่?
ตอบ
- ผู้ชาย เริ่มที่ระดับ 5–6
- ผู้หญิง เริ่มที่ระดับ 4–5
- มือใหม่ ระดับ 3–4 ก็เพียงพอแล้ว
แต่สิ่งที่ควรดูจริง ๆ คือ ค่า Drag Factor ซึ่งสามารถเข้าไปตั้งดูได้ที่หน้าจอ PM5 → More Options → Display Drag Factor แล้วพายเบา ๆ
ค่าที่แนะนำ
- ผู้ชาย 115–135
- ผู้หญิง 105–120
3. ใช้ RowErg แล้วลดน้ำหนักได้ไหม?
ตอบ ได้แน่นอนครับ ถ้าใช้ถูกวิธีและมีวินัย
RowErg คือเครื่องคาร์ดิโอแบบ Full-Body ที่ใช้กล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนในร่างกาย แถมยังเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าเครื่องวิ่งหรือลู่วิ่งในหลายกรณี
ได้อ่านงานวิจัยและค้นพบว่า...
การฝึกด้วย RowErg 30 นาที/ครั้ง, 3–4 วัน/สัปดาห์ สามารถเผาผลาญได้เฉลี่ย 250–400 kcal/ครั้ง และช่วยลดมวลไขมันได้ภายใน 8 สัปดาห์เมื่อควบคุมอาหารร่วมด้วย
4. เสียงดังมากไหม ใช้ในคอนโดได้หรือเปล่า?
ตอบ เสียงไม่ดังเท่า AirBike แต่ก็ไม่เงียบสนิทแบบ Magnetic Rower
เสียงหลัก ๆ มาจากใบพัดลมที่หมุน (เพราะเป็น Air Resistance) และเสียงสลิง
ถ้าใช้ในคอนโด แนะนำให้ใช้พื้นยางรองเครื่อง และตั้งห่างผนังห้องข้าง ๆ สัก 1 เมตร
เสียงจะเบาลงพอสมควร และสามารถฝึกได้สบายช่วงกลางวัน
5. RowErg มีคลาสสอนแบบอินเตอร์แอคทีฟไหม?
ตอบ ไม่มีในตัวเครื่องครับ
แต่สามารถเชื่อมต่อกับแอปอย่าง ErgZone, Concept2 ErgData, Kinomap หรือแม้แต่ STRAVA ได้
แอป ErgZone จะมีโปรแกรมฝึกที่ตั้งไว้สำหรับ HYROX หรือ CrossFit โดยเฉพาะ และสามารถดูสถิติย้อนหลัง + เปรียบเทียบกับผู้อื่นได้
6. ต้องบำรุงรักษายังไงบ้าง?
ตอบ บำรุงรักษาง่ายมาก
เพียงแค่
- เช็ดฝุ่นจากใบพัดเดือนละครั้ง
- ตรวจเชือกพายทุก 3 เดือน
- หยอดน้ำมันลูกรอกหรือรางเลื่อนทุก 6 เดือน
ในยิมของเราใช้ RowErg ทุกวันแบบหนักมาก ๆ มา 3–4 ปี ยังไม่เคยพังหรือเสียเลยครับ มีแค่เปลี่ยนสายดึง 1 ครั้งเท่านั้น
7. ถ้าพายบ่อย จะปวดหลังหรือบาดเจ็บไหม?
ตอบ ถ้าท่าถูก = ไม่เจ็บ
ถ้าท่าผิด = มีโอกาสเจ็บหลังส่วนล่าง หรือไหล่ล้าได้
วิธีฝึกที่ปลอดภัยคือ
- ใช้ขา “ดัน” ออกไปก่อน
- ลำตัว “โน้มเล็กน้อย” (ไม่งอหลัง)
- แล้วค่อย “ดึง” ด้วยแขน
- ตอนกลับ → เรียงลำดับ “แขน → ลำตัว → ขา”
ในยิมของเรา โค้ชจะสอนท่าพื้นฐานให้ก่อนทุกคลาส และแนะนำให้ดูวิดีโอฝึกซ้ำที่บ้าน เพื่อให้ปลอดภัยและได้ผล
คำแนะนำจากโค้ช
“RowErg เป็นเครื่องที่ซื่อสัตย์กับเรามาก — ถ้าคุณซ้อมดี มันจะให้ผลดี
แต่ถ้าคุณพายผิด, ตั้งค่าผิด หรือหวังให้เครื่องนี้ลดพุงให้คุณโดยไม่เปลี่ยนนิสัย... มันก็แค่เครื่องที่ทำให้คุณเหนื่อยเปล่า”
บทความนี้เขียนโดย...
โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)
เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ
โปรไฟล์โค้ชปูแน่น
บทความทั้งหมด
Powered by Mirasvit Magento 2 Extensions
-
- เครื่องเล่นสกีในร่ม Ski Machine สุดยอดเครื่องคาร์ดิโอ Concept2 SkiErgราคาพิเศษ ฿ 74,900.00 ราคาปรกติ ฿ 86,800.00สินค้าหมด
-
-