ก่อนเปิดธุรกิจฟิตเนสควรรู้อะไรบ้าง
“ธุรกิจฟิตเนส” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ค่อนข้างได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากตอนนี้เทรนด์รักสุขภาพกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมสูง ผู้คนจำนวนมากจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และการออกกำลังกายกันมากขึ้น สามารถสังเกตได้เลยว่าฟิตเนสแต่ละที่ จะมีกระแสตอบรับที่ดีอยู่เสมอ และหากคุณกำลังสนใจที่จะลงทุนกับธุรกิจนี้ บทความนี้คือบทความแนะนำสำหรับคุณโดยเฉพาะ
7 เรื่องสำคัญต้องรู้ก่อนลงทุนเปิดธุรกิจฟิตเนส
หากต้องการให้ธุรกิจที่ลงทุนประสบความสำเร็จและมีกำไร ก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจฟิตเนส 7 สิ่งเหล่านี้ คือ เรื่องสำคัญที่ควรรู้เอาไว้ก่อน
1. ค่าเช่าพื้นที่
สิ่งที่จะต้องเตรียมตัวและหาข้อมูลให้พร้อมที่สุด ก่อนที่จะเปิดฟิตเนส คือ “ค่าเช่าพื้นที่” เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนสูงเป็นอันดับต้นๆ ในการทำธุรกิจ ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะสูงหรือต่ำ อาจขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งที่คุณเล็งเอาไว้ หากคุณต้องการสถานที่ที่มีขนาดใหญ่ และอยู่ในละแวกที่มีผู้คนพลุกพล่าน มีที่จอดรถ สัญจรสะดวก ค่าเช่าพื้นที่ก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย และโดยส่วนมากแล้วสัญญาเช่ามักที่จะเป็นสัญญาเช่ารายปี หากตัดสินใจจะเลือกเช่าที่ไหน ก่อนเซ็นสัญญาจะต้องตรวจสอบรายละเอียดของสัญญาให้ชัดเจนเสียก่อน
2. การออกแบบฟิตเนส
เมื่อมีสถานที่ประกอบธุรกิจฟิตเนสเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่จะต้องมีการวางแผนให้ดี ในเรื่องของรูปแบบและค่าใช้จ่าย คือ “การออกแบบฟิตเนส” โดยเราแนะนำว่าอาจต้องมีเงินสำรองในส่วนการลงทุนนี้คร่าวๆ อยู่ที่ประมาณ 500,000-900,000 บาท แต่อาจต่ำหรือสูงกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับวัสดุ อุปกรณ์ตกแต่ง และผู้รับเหมาที่คุณเลือกใช้
3. ใบอนุญาตเปิดฟิตเนส
ในการเริ่มต้นเปิดฟิตเนสใหม่ จะต้องมีการดำเนินการธุรกิจให้ถูกต้อง และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ ดังนั้นจะต้องมีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างครบถ้วน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายดังนี้
- ใบอนุญาตประกอบกิจการในด้านกิจการสถานที่ออกกำลังกาย ฉบับละไม่เกิน 10,000 บาท/ปี (คิดราคาตามประเภทและขนาดของกิจการ)
- ใบอนุญาตเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคาร ฉบับละ 20 บาท / ใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร ฉบับละ 10 บาท และใบอนุญาตรื้อถอนอาคาร ฉบับละ 10 บาท
- หนังสือรับรองการจดทะเบียน ฉบับละ 200 บาท และค่าบริการ ฉบับละ 150 บาท
- ใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่ จำหน่ายหรือสะสมอาหาร ฉบับละ 2,000 บาท ในกรณีพื้นที่ประกอบการเกิน 3,220 ตารางฟุต คิดเพิ่มตารางฟุตละ 5 บาท แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 3,000 บาท
- ใบรับรองเทรนเนอร์ รายละ 35,955 บาท
4. อุปกรณ์ฟิตเนส
เมื่อเป็นธุรกิจฟิตเนสแน่นอนว่าสิ่งที่จะขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด คือ “อุปกรณ์ฟิตเนส” ไม่ว่าจะเป็นเครื่องออกกำลังกาย หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใช้ในการออกกำลังกาย โดยในรายละเอียดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ จะคล้ายๆ กับค่าใช้จ่ายในส่วนของการเช่าพื้นที่ ทุนจะสูงหรือจะต่ำ ขึ้นอยู่กับเกรดและแบรนด์ของเครื่องออกกำลังกาย ที่เลือกจัดซื้อนำเอามาให้บริการแก่ลูกค้า
5. ประกันภัยฟิตเนส
“ประกันภัยฟิตเนส” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด หากเลือกทำธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการจะต้องทำประกันภัยให้ครบรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ, โจรกรรม, อัคคีภัย โดยราคาค่าเบี้ยของประกันอาจมีค่าเบี้ยสูงหรือต่ำ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่, ประเภทของพื้นที่, มูลค่าทรัพย์สินภายใน และปัจจัยต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องอ่านรายละเอียดของประกันภัยให้ดี ก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันภัยเพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า
6. พนักงานฟิตเนส
ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการออกกำลังกาย แต่ที่ฟิตเนสก็จำเป็นที่จะต้องมีพนักงาน ที่นอกเหนือจากเทรนเนอร์ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งพนักงานในที่นี้อาจหมายถึง เทรนเนอร์, พนักงานทำความสะอาด, พนักงานขาย, พนักงานซ่อมบำรุง, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ เจ้าของกิจการจะต้องมีค่าใช้จ่ายในส่วนของพนักงานเพิ่มเติมเข้ามา เช่น เงินเดือน และค่ายูนิฟอร์ม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นต้นทุนของธุรกิจทั้งสิ้น
7. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การเปิดธุรกิจฟิตเนสยังอาจมีค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพิ่มเติมอีก อย่างเช่น ค่าคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ประจำสาขา, ค่าระบบหน้าร้าน, ค่าทำการตลาด, ค่าน้ำ-ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต, ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาด, ค่าซ่อมบำรุง และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องนำเอาค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปคิดรวมกับต้นทุนด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต
Homefittools พร้อมมอบบริการครบวงจร ตอบโจทย์ผู้ที่อยากเปิดธุรกิจฟิตเนส
เพื่อให้การเปิดฟิตเนสเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุนไปกับการลองผิดลองถูก สำหรับผู้ที่มีความสนใจอยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจฟิตเนส แนะนำเลือกปรึกษาเพิ่มเติมกับทาง Homefittools ที่มีบริการเกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะบริการให้คำปรึกษา, บริการออกแบบสถานที่ จัดวางอุปกรณ์ด้วยระบบ 3D, บริการนำเข้าจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายที่ใช้ในการประกอบธุรกิจและ เครื่องออกกำลังกายที่บ้าน ทุกชนิด, บริการ Training การใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ, บริการจัดไฟแนนซ์ และที่สำคัญยังมีบริการหลังการขาย เกี่ยวกับการดูแลและซ่อมบำรุง เรียกได้ว่าครบจบในที่เดียว ต่อให้คุณจะไม่เคยมีประสบการณ์การทำธุรกิจทางด้านนี้มาก่อน ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
สรุปบทความ
อย่างที่เราได้มีการกล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และเริ่มเข้าฟิตเนสกันมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหากคุณกำลังสนใจที่จะทำธุรกิจนี้ ขอเพียงแค่หาข้อมูลเพิ่มเติม ทำความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมกับการลงทุน เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเปิดธุรกิจฟิตเนส แต่หากคุณอยากได้ที่ปรึกษาข้างกาย ที่มีประสบการณ์ และเป็นที่ปรึกษาที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น
