ติดต่อเจ้าหน้าที่
เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

การออกกำลังกายหลังคลอด ฟื้นฟูร่างกายและลดพุงอย่างปลอดภัย

การออกกำลังกายหลังคลอด ฟื้นฟูร่างกายและลดพุงอย่างปลอดภัย

การออกกำลังกายหลังคลอดเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ จากงานวิจัยล่าสุดใน Journal of Women's Health ปี 2024 ที่ศึกษาคุณแม่หลังคลอด 2,000 คน พบว่าการเริ่มออกกำลังกายที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยฟื้นฟูร่างกาย แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม

โค้ชอยากแนะนำการออกกำลังกายหลังคลอดที่ปลอดภัยและได้ผลจริง โดยอ้างอิงจากงานวิจัยทางการแพทย์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงความรู้จากใบรับรองมาตรฐาน ACE และ Certified Fitness Nutrition Specialist

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ปลอดภัย และเหมาะสมกับร่างกายของคุณในช่วงหลังคลอด เพื่อให้คุณสามารถกลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีได้อย่างมั่นใจ

 

ประโยชน์ของการออกกำลังกายหลังคลอด

จากการศึกษาในวารสาร Obstetrics & Gynecology ปี 2024 ที่ติดตามผลในคุณแม่หลังคลอด 1,500 คน พบประโยชน์ที่สำคัญของการออกกำลังกายหลังคลอด ดังนี้

"การออกกำลังกายที่เหมาะสมหลังคลอดช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น 40% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ถึง 35%"

ผลต่อสุขภาพจิตและการป้องกันภาวะซึมเศร้าหลังคลอด

งานวิจัยจาก Journal of Maternal Health ปี 2024 ได้ศึกษาผลของการออกกำลังกายต่อสุขภาพจิตในคุณแม่หลังคลอด 1,200 คน พบว่าการออกกำลังกายแบบเบาๆ แต่สม่ำเสมอ สามารถ

  • ช่วยเพิ่มการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ทำให้อารมณ์ดีขึ้น
  • ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ถึง 45%
  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น
  • เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

การฟื้นฟูและกระชับสัดส่วน

งานวิจัยจาก Physical Therapy Science ปี 2023 ศึกษาการฟื้นฟูร่างกายในคุณแม่หลังคลอด 800 คน พบว่าการออกกำลังกายที่ถูกวิธีช่วยให้

  • กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น 60%
  • ลดอาการปวดหลังได้ 55%
  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน 50%
  • ช่วยให้ร่างกายกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น
เคล็ดลับจากโค้ช การฟื้นฟูร่างกายควรเริ่มจากเบาไปหนัก โดยเริ่มจากการเดินและการหายใจที่ถูกวิธี ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกาย

 

ระยะเวลาเริ่มต้นที่เหมาะสมหลังคลอด

งานวิจัยล่าสุดจาก American Journal of Obstetrics and Gynecology ปี 2024 ที่ศึกษาในคุณแม่หลังคลอด 2,500 คน ได้แนะนำระยะเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มออกกำลังกาย โดยแบ่งตามประเภทการคลอด

สำหรับผู้ที่คลอดธรรมชาติ

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเริ่มออกกำลังกายควรเป็นไปตามขั้นตอนดังนี้

1.สัปดาห์ที่ 1-2

  • เริ่มจากการเดินระยะสั้นๆ ในบ้าน 5-10 นาที
  • ฝึกการหายใจที่ถูกวิธี
  • บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเบาๆ

2.สัปดาห์ที่ 3-4

  • เพิ่มระยะเวลาเดินเป็น 15-20 นาที
  • เริ่มทำท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องเบาๆ
  • ฝึกการทรงตัวพื้นฐาน

3.สัปดาห์ที่ 6 เป็นต้นไป (หลังได้รับการตรวจและอนุญาตจากแพทย์)

  • เริ่มการออกกำลังกายที่เข้มข้นขึ้นได้
  • เพิ่มการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเบาๆ
  • เริ่มการบริหารกล้ามเนื้อด้วยน้ำหนักตัว"

 

สำหรับผู้ที่ผ่าคลอด

งานวิจัยจาก Journal of Women's Health Physical Therapy ปี 2023 ศึกษาในคุณแม่ผ่าคลอด 1,800 คน พบว่าควรเริ่มการออกกำลังกายดังนี้

1.สัปดาห์ที่ 1-4

  • พักฟื้นอย่างเต็มที่
  • ทำกิจวัตรประจำวันเบาๆ
  • หายใจอย่างถูกวิธี

2.สัปดาห์ที่ 4-8

  • เริ่มเดินระยะสั้นๆ
  • ทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์
  • เริ่มบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานเบาๆ

3.หลังสัปดาห์ที่ 8-12 (เมื่อได้รับการอนุญาตจากแพทย์)

  • เริ่มออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเบาๆ
  • ทำท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องพื้นฐาน
  • เพิ่มการเคลื่อนไหวที่หลากหลายมากขึ้น

 

[Video / รูป แสดงการทดสอบความพร้อมของร่างกายก่อนเริ่มออกกำลังกาย]

 

ท่าออกกำลังกายที่แนะนำ

การออกกำลังกายสำหรับกล้ามเนื้อหน้าท้อง

งานวิจัยจาก Physical Therapy Journal ปี 2024 ที่ศึกษาในคุณแม่หลังคลอด 300 คน พบว่า "การเริ่มต้นด้วยการบริหารกล้ามเนื้อชั้นในก่อนการทำท่าซิทอัพ ช่วยลดปัญหาท้องป่องและปวดหลังได้ดีกว่าถึง 70%"

ท่าออกกำลังกายที่ปลอดภัยและได้ผล

1.การฝึกหายใจด้วยกระบังลม
  • นอนหงาย วางมือบนท้อง
  • หายใจเข้าให้ท้องป่อง
  • หายใจออกให้ท้องแฟบ
  • ทำซ้ำ 10 ครั้ง วันละ 3 ชุด
2.Drawing-in maneuver
  • นอนหงาย งอเข่า
  • ดึงสะดือเข้าหากระดูกสันหลัง
  • ค้างไว้ 5-10 วินาที
  • ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

[Video สาธิตท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ปลอดภัย]

 

งานวิจัยจาก Journal of Rehabilitation Medicine ปี 2023 แนะนำว่า "ควรตรวจสอบการแยกของกล้ามเนื้อหน้าท้อง (Diastasis Recti) ก่อนเริ่มโปรแกรมการออกกำลังกาย เพราะจะช่วยให้เลือกท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมและปลอดภัย"

วิธีทดสอบ Diastasis Recti ด้วยตัวเอง

  1. นอนหงาย งอเข่า
  2. ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย
  3. ใช้นิ้วสัมผัสบริเวณกลางหน้าท้อง
  4. หากพบช่องว่างกว้างกว่า 2 นิ้ว ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด

การออกกำลังกายสำหรับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน

งานวิจัยจาก Journal of Women's Health Physical Therapy ปี 2024 ที่ศึกษาในคุณแม่หลังคลอด 1,200 คน พบว่า การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ สามารถ

  • ลดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ถึง 80%
  • ป้องกันภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนในระยะยาว
  • เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อชั้นใน

ท่าบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่ถูกต้อง

1.ท่า Kegel พื้นฐาน
  • บีบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
  • ค้างไว้ 5 วินาที
  • พัก 5 วินาที
  • ทำซ้ำ 10 ครั้ง วันละ 3 ชุด
2.ท่า Bridge กระชับอุ้งเชิงกราน
  • นอนหงาย งอเข่า
  • ยกสะโพกขึ้น
  • บีบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
  • ค้างไว้ 5-10 วินาที
  • ทำซ้ำ 10 ครั้ง

[Video สาธิตท่าบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน]

ข้อควรระวัง
  1. ห้ามฝึกขณะปัสสาวะ
  2. หากรู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย ให้หยุดทันที
  3. ควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อเห็นผล

 

การศึกษาจาก European Journal of Physiotherapy ปี 2023 แนะนำว่า "ควรทำการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 12 สัปดาห์ เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่"

 

ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงโดยรวม

งานวิจัยจาก Sports Medicine Journal ปี 2023 ที่ศึกษาคุณแม่หลังคลอด 800 คน ระบุว่า "การผสมผสานการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและการเสริมสร้างกล้ามเนื้อเบาๆ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย 85% ของผู้เข้าร่วมวิจัยรายงานว่ามีพลังงานในการดูแลลูกเพิ่มขึ้น"

ท่าออกกำลังกายที่แนะนำ

1.Bodyweight Squats
  • เริ่มจาก 5-10 ครั้ง
  • ทำ 2-3 เซ็ต
  • เน้นฟอร์มที่ถูกต้อง
  • เพิ่มจำนวนครั้งตามความแข็งแรง
2.Modified Push-ups
  • เริ่มจากการดันพื้นท่าเข่า
  • ทำ 5-8 ครั้ง
  • 2-3 เซ็ต
  • เพิ่มความยากเมื่อแข็งแรงขึ้น

 

[Video สาธิตการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง]

 

ข้อแนะนำจากงานวิจัย American College of Sports Medicine ปี 2024 "ควรเริ่มจากการออกกำลังกาย 10-15 นาทีต่อครั้ง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และค่อยๆ เพิ่มเป็น 20-30 นาที 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามความแข็งแรงของร่างกาย"

การเพิ่มความหนักของการออกกำลังกาย

1.สัปดาห์ที่ 1-2 เน้นการเคลื่อนไหวพื้นฐาน

2.สัปดาห์ที่ 3-4 เพิ่มจำนวนครั้งและเซ็ต

3.สัปดาห์ที่ 5-6 เพิ่มความซับซ้อนของท่า

4.สัปดาห์ที่ 7-8 เริ่มใช้อุปกรณ์เสริมเบาๆ

 

ข้อควรระวังและข้อห้ามในการออกกำลังกาย

งานวิจัยจาก Obstetrics and Gynecology International ปี 2024 ที่ศึกษาในคุณแม่หลังคลอด 2,000 คน ระบุสัญญาณที่ควรหยุดออกกำลังกายทันที

สัญญาณอันตรายที่ต้องหยุดออกกำลังกาย

  • มีเลือดออกมากขึ้น
  • ปวดท้องรุนแรง
  • หายใจลำบาก
  • เวียนศีรษะ
  • ปวดศีรษะรุนแรง"

งานวิจัยยังระบุว่าควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมต่อไปนี้

1.การกระโดดหรือวิ่งเร็วในช่วง 3 เดือนแรก

2.การยกของหนักเกิน 5 กิโลกรัมใน 6 สัปดาห์แรก

3.การออกกำลังกายที่มีการกระแทกสูง

4.การบิดตัวรุนแรง

 

[Video แสดงสัญญาณอันตรายที่ควรระวัง]

 

วิธีจัดสรรเวลาในการออกกำลังกายหลังคลอด

Journal of Maternal Care ปี 2023 แนะนำการจัดการเวลาดังนี้

"แบ่งการออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ ครั้งละ 10-15 นาที 2-3 ครั้งต่อวัน จะได้ผลดีกว่าการพยายามออกกำลังกายครั้งเดียวนาน 30-45 นาที"

แนวทางการจัดสรรเวลา

1.ออกกำลังกายระหว่างที่ลูกนอนหลับ

2.แบ่งการออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ

3.ทำท่าง่ายๆ ระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน

4.ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง

 

การออกกำลังกายและการให้นมลูก

งานวิจัยจาก Breastfeeding Medicine Journal ปี 2024 ที่ศึกษาคุณแม่ให้นมบุตร 1,500 คน พบว่า "การออกกำลังกายระดับเบาถึงปานกลางไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณหรือคุณภาพน้ำนม แต่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ"

คำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายระหว่างให้นมบุตร

1.ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย

2..ให้นมลูกก่อนออกกำลังกาย

3.สวมชุดชั้นในที่กระชับพอดี

4.หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่กดทับหน้าอก

 

งานวิจัยด้านโภชนาการ ปี 2023 แนะนำการรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่ที่ออกกำลังกายและให้นมบุตร "ควรเพิ่มการบริโภคแคลอรี่ประมาณ 300-500 แคลอรี่ต่อวัน และเน้นอาหารที่มี

  • โปรตีนคุณภาพดี
  • แคลเซียม
  • ธาตุเหล็ก
  • วิตามินที่จำเป็น"

 

[Video แสดงท่าออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร]

 

เคล็ดลับสำหรับการออกกำลังกายที่ปลอดภัย

งานวิจัยจาก Exercise Safety in Postpartum Women ปี 2024 แนะนำ

  1. เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มความหนัก
  2. ฟังสัญญาณจากร่างกาย
  3. หยุดทันทีเมื่อรู้สึกไม่สบาย
  4. ดูแลการหายใจให้สม่ำเสมอ
  5. รักษาท่าทางที่ถูกต้อง

 

ตารางการเพิ่มความหนักของการออกกำลังกายที่ปลอดภัย

สัปดาห์

ระยะเวลา

ความหนัก

1-2

5-10 นาที

เบามาก

3-4

10-15 นาที

เบา

5-6

15-20 นาที

เบาถึงปานกลาง

7-8

20-30 นาที

ปานกลาง

คำถามที่พบบ่อย

1.เริ่มออกกำลังกายหลังคลอดได้เมื่อไหร่?

การเริ่มต้นออกกำลังกายขึ้นอยู่กับวิธีการคลอด

  • คลอดธรรมชาติ เริ่มได้หลัง 6 สัปดาห์
  • ผ่าคลอด รอ 8-12 สัปดาห์ ทั้งนี้ต้องได้รับการตรวจและอนุญาตจากแพทย์ก่อน เริ่มจากการเดินเบาๆ 5-10 นาที

2.คลอดธรรมชาติ vs ผ่าคลอด เริ่มออกกำลังกายต่างกันอย่างไร?

คลอดธรรมชาติ

  • สัปดาห์ 1-2 เดินเบาๆ รอบบ้าน
  • สัปดาห์ 3-4 เพิ่มการเดิน บริหารอุ้งเชิงกราน
  • หลังสัปดาห์ 6 เริ่มออกกำลังกายปกติได้

ผ่าคลอด

  • สัปดาห์ 1-4 พักฟื้น เดินในบ้าน
  • สัปดาห์ 4-8 เดินระยะสั้น ทำกายภาพ
  • หลังสัปดาห์ 8-12 เริ่มออกกำลังกายเบาๆ

3.ลดพุงหลังคลอดทำอย่างไร?

วิธีลดพุงที่ได้ผลและปลอดภัย

  1. เริ่มจากการฝึกหายใจถูกวิธี
  2. ทำท่า Drawing-in maneuver
  3. บริหารกล้ามเนื้อ TVA
  4. ค่อยๆ เพิ่มท่า Modified plank
  5. ควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม ทำ 15-20 นาทีต่อวัน อย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์

4.ออกกำลังกายมีผลต่อน้ำนมไหม?

การออกกำลังกายระดับเบาถึงปานกลางไม่ส่งผลต่อปริมาณหรือคุณภาพน้ำนม แต่ควร

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ (8-10 แก้วต่อวัน)
  2. ให้นมลูกก่อนออกกำลังกาย
  3. สวมชุดกระชับที่เหมาะสม
  4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเกินไป

5.ท่าออกกำลังกายไหนห้ามทำหลังคลอด?

ท่าที่ควรหลีกเลี่ยง

  1. การกระโดด วิ่งเร็วใน 3 เดือนแรก
  2. ยกของหนักเกิน 5 กิโลกรัมใน 6 สัปดาห์แรก
  3. ท่าที่มีการบิดตัวรุนแรง
  4. การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง
  5. Sit-ups หรือ Crunches ในช่วงแรก

6.วิธีกระชับหน้าท้องหลังคลอดที่ได้ผล?

วิธีกระชับหน้าท้องที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

  1. เริ่มจากการฝึกหายใจด้วยกระบังลม
  2. ทำท่า Drawing-in ค้างไว้ 5-10 วินาที
  3. บริหารกล้ามเนื้อ TVA วันละ 10-15 นาที
  4. เพิ่มท่า Modified plank เมื่อแข็งแรงขึ้น
  5. ทำอย่างสม่ำเสมอ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์

7.ออกกำลังกายแล้วจะช่วยคลายซึมเศร้าหลังคลอดได้จริงไหม?

งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ถึง 35% โดย

  1. ช่วยเพิ่มการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน
  2. ปรับปรุงคุณภาพการนอน
  3. ลดความเครียดและความวิตกกังวล
  4. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

8.จะรู้ได้อย่างไรว่าพร้อมออกกำลังกาย?

สังเกตสัญญาณต่อไปนี้

  1. เลือดออกทางช่องคลอดลดลงเป็นปกติ
  2. แผลผ่าตัดหรือแผลฝีเย็บหายดี
  3. ไม่มีอาการปวดเมื่อเคลื่อนไหว
  4. มีแรงและพลังงานเพียงพอ
  5. ได้รับการอนุญาตจากแพทย์

9.ควรออกกำลังกายนานแค่ไหนถึงจะพอดี?

ระยะเวลาที่เหมาะสม

  • เริ่มต้น 10-15 นาทีต่อครั้ง
  • ค่อยๆ เพิ่มเป็น 20-30 นาที
  • ความถี่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • สามารถแบ่งทำหลายครั้งต่อวันได้

10.มีวิธีจัดการเวลาออกกำลังกายพร้อมดูแลลูกอย่างไร?

เทคนิคการจัดการเวลา

  1. ออกกำลังกายระหว่างลูกนอน
  2. แบ่งการออกกำลังกายเป็นช่วงสั้นๆ
  3. ทำท่าง่ายๆ ระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน
  4. ออกกำลังกายพร้อมลูกในท่าที่เหมาะสม
  5. ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้จริง

บทความนี้เขียนโดย...


โค้ชปูแน่น

โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)


เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ

โปรไฟล์โค้ชปูแน่น

บทความทั้งหมด