รีวิว Curve treadmill แตกต่างและดีกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างไร

          ลู่วิ่งจัดเป็นอุปกรณ์ยอดฮิตที่ฟิตเนสหลายแห่งต้องมี หลายบ้านต้องไม่ขาด ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยทีเดียวที่ยังคงนึกถึงลู่วิ่งไฟฟ้าเสียบปลั๊กแบบเดิมที่เห็นกันได้ตามทั่วไป ทว่าครั้งนี้เราจะสลัดภาพจำเหล่านั้นไปด้วยการนำ "ลู่วิ่งโค้ง" หรือ Curve treadmill มารีวิวให้เคลียร์ทุกข้อสงสัยกันไปเลย

Curve treadmill คืออะไร

          Curve treadmill คือลู่วิ่งแบบไม่ใช้ไฟฟ้าที่ออกแบบให้มีทรงเว้าโค้ง เพื่อรองรับการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติและสรีระของมนุษย์ ซึ่งช่วยลดภาระของข้อต่อและยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแรงต้านและความเร็วได้ตามสะดวกด้วยจังหวะการวิ่งของตัวเอง พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานของสายพานที่ใช้ระบบลูกปืนขับเคลื่อนแบบเต็มพิกัด จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย นักวิ่ง หรือแม้กระทั่งนักกีฬาที่ต้องการฝึกซ้อมหรือเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระดับการออกกำลังกายขั้น Basic หรือ Advance อย่างพวก Interval speed work หรือ HIIT ก็ทำได้ทั้งสิ้น

กลไกการทำงาน

          ระบบการทำงานหลักของ Curve treadmill คือการควบรวมแรงโน้มถ่วง แรงเสียดทาน และอัตราของแรงขณะวิ่งให้ทำงานประสานกันนับตั้งแต่เราก้าวเท้าบนลู่ และด้วยรูปทรงโค้งที่ออกแบบเพื่อรองรับการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ จึงทำให้เท้าและน้ำหนักตัวของผู้ใช้ดึงสายพานให้เคลื่อนช้าลงเมื่อถึงช่วงจังหวะก้าวถอยหลัง และแน่นอนว่าหากก้าวไปข้างหน้าด้วยแรงที่มากขึ้น ก็ย่อมเร่งความเร็วของลู่วิ่งได้มากเท่านั้น

         นอกจากนี้การวิ่งบนลู่วิ่งโค้งมีส่วนช่วยให้นักกีฬาและผู้ใช้หลายคนลดแรงกระแทกลงขาจากน้ำหนักตัวในแนวดิ่ง และช่วยเร่งอัตราการเผาผลาญได้มากกว่าลู่วิ่งชนิดอื่นได้อีกด้วย โดยจากงานศึกษาจาก Journal of Science and Medicine in Sport (JSAMS) ที่คัดนักวิ่งอาสาสมัครชายกว่า 13 คนเข้าการทดลองวิ่งจำนวน 4 ครั้งเพื่อเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว และการดูดซึมออกซิเจนระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งโค้ง จนพบว่านักวิ่งจะใช้แรงวิ่งบน Curve treadmill มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับลู่วิ่งธรรมดา

Curve treadmill มีข้อดีอย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของการใช้ลู่วิ่งทรงโค้งนั้นมีหลายข้อด้วยกันครับ หลัก ๆ จะช่วย

• เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น: ดังจากการวิจัยที่หยิบยกมาข้างต้น ซึ่งผลการวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าวิ่งบนลู่วิ่งทรงโค้ง ทำให้ผู้เล่นใช้ออกซิเจนโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 32% อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น 16% ร่วมกับอัตราวิ่งที่เร็วขึ้นกว่า 2.5%
• ลดอาการปวดข้อจากแรงกระแทกขณะวิ่ง: ลู่วิ่งออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับสรีระและการเคลื่อนไหว ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกเมื่อร่วมกับการใช้สายพานที่ทำจากผิวยางอย่างดี จึงรู้สึกนุ่มสบายขณะก้าวเท้าบนลู่
• ช่วยกระชับรูปร่างให้ได้สัดส่วน: ด้วยการดีไซน์ลู่วิ่งให้รองรับการเคลื่อนไหวในองศาและทิศทางที่พอดี จึงช่วยส่งเสริมให้สรีระขณะวิ่งนั้นตั้งตรง ลดไขมันส่วนเกิน เพิ่มความแข็งแกร่งได้ตรงส่วน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเร็วและความว่องไวของร่างกายได้เป็นอย่างดี
• เพิ่มการ Workout ที่เข้มข้นยิ่งขึ้น: โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการออกกำลังกายแบบ HIIT หรือการ Sprints ลู่วิ่งแบบโค้งจะช่วยคุณเร่งความเร็วได้เป็นพิเศษและเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้ในทันที ดังนั้นแล้วคุณจึงออกแรงได้หนักขึ้น
• หมดกังวลค่าไฟพร้อมรักษ์โลก: แน่นอนทีเดียวสำหรับลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เนื่องจากการไม่ใช้ไฟฟ้าช่วยลดการปล่อย carbon footprint

ลู่วิ่งสองรุ่น Curve ยอดฮิตตลอดกาล

1. CX7 treadmill

รายละเอียดลู่วิ่งโค้งรุ่น CX7

• มีขนาดและองศาที่สวยงาม มั่นคง ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกขณะวิ่งได้เป็นอย่างดี
• สายพานบานเกร็ดแบบยาวกว่า 2.5 cm. พร้อมที่พักขาขนาดใหญ่กว่า 15 เซนติเมตร
• ตัวเครื่องออกแบบให้สภาพแข็งแรง พร้อมรับน้ำหนักได้มากถึง 160 กิโลกรัม
• ขับเคลื่อนด้วยระบบลูกปืน จึงลดแรงเสียดทานได้อย่างดี
• ปรับเปลี่ยนโหมดวิ่งได้ตามสะดวกด้วยโซน 3 ระดับ ทั้งเพิ่ม ลด และรักษาระดับความเร็ว
• พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ที่วัดระดับความเร็ว เวลา อัตราเต้น แคลอรี่ ครบจบ
• ราคาเพียง 59,900 บาท

2. CX8 treadmill

รายละเอียดลู่วิ่งโค้งรุ่น CX8

• มีขนาดและองศาที่สวยงาม มั่นคง ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกขณะวิ่งได้เป็นอย่างดี
• ด้วยตัวเครื่องที่แข็งแรงและมีขนาดใหญ่พิเศษ จึงรับน้ำหนักได้มากถึง 190 กิโลกรัม
• พร้อมก้านปรับระดับความหนืดถึง 8 ระดับ เพิ่มสะดวกในการปรับท่าวิ่งได้มากขึ้น
• ขับเคลื่อนด้วยระบบลูกปืน จึงสามารถปรับแรงต้านและความเร็วได้ด้วยตัวเอง
• พร้อมหน้าจอ LCD พร้อมวัดระดับความเร็ว เวลา อัตราเต้น แคลอรี่ ครบจบ
• ราคาเพียง 59,000 บาท

ข้อควรระวัง

          สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นชินกับการใช้ลู่วิ่งโค้ง หรือลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ให้เริ่มจากการวิ่งในระดับความเร็วปรกติในขั้นต้น พร้อมกับค่อย ๆ เรียนรู้การควบคุมความเร็วร่วมกับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดจนเชี่ยวชาญ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บระหว่างใช้ลู่วิ่ง