แม้ว่าวิทยาการแพทย์ที่รุดหน้าจะทำให้การสร้าง Six pack ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่การจะได้กล้ามท้องซิกแพคที่ทั้งสวมงามและแข็งแกร่งไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนเราอาจหลงลืมไปว่าที่จริงแล้วซิกแพคก็อยู่กับร่างกายเราตลอด แต่จะทำอย่างไรให้มันโผล่พ้นจนเด่นชัดขึ้นมาล่ะ บางทีแค่ท่าบริหารคงยังไม่พอ ทว่าการกินก็สำคัญไม่น้อยกว่ากัน
คราวก่อน Homefittools ได้พูดถึงการกินวีแกนสร้างกล้าม พร้อมประโยชน์และข้อระวังที่ควรรู้ก่อนเลือกตัดสินใจเป็นวีแกนกัน ทว่าครั้งนี้เรามารู้จักและเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า "ซิกแพค" กันมากขึ้น รวมทั้งเทคนิคการสร้างกล้ามท้องสุดแกร่งให้คมชัดตามใจสั่งกับอุปกรณ์สร้างกล้ามท้องอย่างเก้าอี้ซิทอัพ ลูกกลิ้งออกกำลังกาย ที่วิดพื้นที่ทำได้จากที่บ้าน และหากคุณอยากลองสัมผัสเครื่องออกกำลังกายจริง ๆ ก่อนตัดสินใจ ก็สามารถทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วันได้ที่ Real Gym ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ คลิกเพื่อลงทะเบียนและดูสาขาได้ที่นี่
นอกจากท่าออกกำลังกายแล้วยังมีปัจจัยอื่นอีกไหม? หาคำตอบได้ที่นี่ !
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Six pack หรือ "ซิกแพค" คือกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนเรคตัส (Rectus Abdominis Muscle) โดยมีลักษณะแบนยาวทอดเป็นปล้องกลางลำตัว มีหน้าที่หลักคอยรับแรงกดขณะเอนตัวไปด้านหน้าและช่วยกดผนังหน้าท้องเพื่อเพิ่มแรงดันสำหรับขับถ่าย สำหรับผู้ชาย ซิกแพคจะเห็นได้ชัดเจนกว่าผู้หญิงเนื่องจากมีไขมันสะสมน้อยกว่า และมักพบได้ตั้งแต่ 4-8 ลูก โดยแบบที่พบมากที่สุดคือ 6 ลูก เรียงคู่กัน 2 ข้าง ข้างละ 3 ลูก
1.กล้ามเนื้อส่วน Rectus Abdominis เป็นกล้ามเนื้อท้องส่วนด้านหน้าสุด พาดยาวจากซี่โครงถึงกระดูกเชิงกราน ทำหน้าที่หลักในการงอตัว และเป็นส่วนที่เราเห็นเป็นซิกแพค
2.กล้ามเนื้อส่วน External Obliques อยู่บริเวณด้านข้างหน้าท้อง ระหว่างซี่โครงส่วนล่างถึงเชิงกราน ช่วยในการงอและบิดลำตัว
3.กล้ามเนื้อส่วน Internal Obliques อยู่ชั้นถัดจาก External Obliques เข้าไป ทำหน้าที่พยุงกระดูกสันหลังส่วนกลางและลำตัว
4.กล้ามเนื้อส่วน Transversus Abdominis เป็นชั้นลึกสุด พาดขวางบริเวณหน้าท้อง ช่วยพยุงช่องท้องและกระดูกสันหลังส่วนล่าง
การสร้างซิกแพคให้ปรากฏเด่นชัดสะดุดตาอาศัยหลากปัจจัยที่สำคัญ
1.Genetics (พันธุกรรม) พันธุกรรมมีบทบาทสำคัญคอยกำหนดฟังก์ชั่นการสะสมไขมันในร่างกายของคุณ ร่วมกับสไตล์การใช้ชีวิต เช่น การนอน ความเครียด ล้วนแล้วส่งผลต่อการเรียกใช้ไขมันเผาผลาญ จากงานศึกษาเรื่องการอดนอนจาก University of California พบว่าการนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงส่งผลต่ออัตราโรคอ้วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรบกวนการทำงานของฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและกักเก็บไขมันอย่าง ghrelin, leptin และ Insulin โดยตรง
2.Subcutaneous belly fat (ไขมันหน้าท้อง) Subcutaneous belly fat: เปอร์เซ็นต์ไขมันสะสมในร่างกายเป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อการโผล่พ้นของ Six pack abs โดยมีงานศึกษา ชิ้นหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่าช่วงเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย 17.6 – 25.3% เหมาะสมสำหรับผู้ชาย และ 28.8 – 35.7% สำหรับผู้หญิง ตามลำดับ แม้ไม่มีมาตรฐานกำหนดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่เหมาะสม ทว่าโดยมากที่นิยมกันจะอยู่ช่วง 10 – 12% และ 16 – 20%
การปรากฏขึ้นของซิกแพคล้วนขึ้นเกิดจากการดุลปริมาณไขมันในร่างกาและสภาพการใช้ชีวิตซึ่งส่งผลต่อฟังก์ชั่นการกักเก็บไขมันของร่างกาย การนอนหลับที่เพียงพอ ผ่อนเบาจากความเครียดและนิสัยการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อมพาคุณไปสู่เป้าหมายได้ไม่ยาก
การจะสร้างซิกแพคให้เห็นผลชัดเจนนั้น นอกจากการควบคุมอาหารและการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว การเลือกท่าออกกำลังกายที่ถูกต้องก็สำคัญไม่แพ้กัน มาดูท่าออกกำลังกายช่วยสร้างซิกแพคให้คมชัดกัน
ท่า Elbow Plank
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Plank เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความทนทานของหน้าท้องได้อย่างดี โดยเฉพาะบริเวณ Transversus Abdominis Muscle ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อท้องมัดลึกที่ช่วยในการทรงตัว
วิธีทำ Plank อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ การทำท่า Plank อย่างสม่ำเสมอ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
อ่านบทความเพิ่มเติม : การ Plank อย่างละเอียดและตารางแพลงค์ลดพุง
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Abs Roller เป็นท่าที่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องหลายมัดพร้อมกัน ทั้งส่วนบน ส่วนล่าง และด้านข้าง ช่วยสร้างซิกแพคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทำ Abs Roller อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
อ่านบทความเพิ่มเติม : ท่าเล่นลูกกลิ้งเพื่อบริหารหน้าท้อง คลิกเลย !
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Reverse Crunch เป็นท่าที่เน้นกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างโดยเฉพาะ ช่วยสร้างเส้น V-line ที่หลายคนต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทำ Reverse Crunch อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
ระหว่างทำท่า Reverse Crunch ควรระวังไม่ส่วนสะโพกและหลังส่วนล่างให้พ้นจากพื้น ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเราใช้แรงจากหลังเป็นตัวช่วยผ่อนแรง แทนที่ท่าดังกล่าวจะโดนส่วนหน้าท้องเป็นหลัก
ดูวิธีการเล่นท่า Reverse Crunch อย่างละเอียด คลิกเลย !
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Decline Sit-up เป็นท่าที่พัฒนาต่อยอดจากซิทอัพธรรมดา เน้นการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนบนให้เกิดซิกแพคที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
วิธีทำ Decline Sit-up อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
ทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วัน ที่ Real Gym : มี 5 สาขาใกล้บ้านคุณ ครบทุกเครื่อง – คลาส – เทรนเนอร์ เล่นฟรีทุกคลาส
กดลงทะเบียนและดูสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่นี่
เครดิตภาพ: www.freepik.com
Russian Twist เป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านข้างโดยเฉพาะ ช่วยสร้างความแข็งแรงและกระชับส่วนเอวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทำ Russian Twist อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
เครดิตภาพ: www.freepik.com
แหล่งอ้างอิงรูปภาพ : https://www.coachmag.co.uk/back-exercises/8183/how-to-do-the-back-extension
Lower Back Extensions ไม่เพียงช่วยสร้างซิกแพคด้านหน้า แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ทำให้การสร้างกล้ามท้องสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
วิธีทำ Lower Back Extensions อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
Barbell Squat แม้จะดูเหมือนเป็นท่าสำหรับขา แต่การถือบาร์เบลบนบ่าขณะย่อตัวทำให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาสมดุล
วิธีทำ Barbell Squat อย่างถูกต้อง
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ
เทคนิคและข้อแนะนำเพิ่มเติม
เพื่อให้ทุกท่วงท่าและจังหวะนั้นปลอดภัย ควรเริ่มต้นบริหารท่าจากแผ่นน้ำหนักที่น้อยก่อน จนคล่องตัวค่อยไล่สเกลให้หนักขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดี หากใครกลัวว่าการถือบาร์เบลแยกเดี่ยวไม่เซฟพอ การใช้บาร์เบลที่พวกชุดมากับโฮมยิม จะช่วยคุณได้มากทีเดียว
การสร้างซิกแพคให้เห็นผลภายใน 1 เดือนต้องอาศัยความทุ่มเทและวินัยอย่างสูง โดยต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญสามประการ คือการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการพักผ่อน
ควรทำท่าบริหารหน้าท้องอย่างน้อย 4-5 วันต่อสัปดาห์ โดยสลับกลุ่มกล้ามเนื้อที่ฝึกในแต่ละวัน ไม่ควรเล่นกล้ามท้องติดต่อกันทุกวัน เพราะกล้ามเนื้อต้องการเวลาพักฟื้นเพื่อซ่อมแซมและเติบโต
ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น อกไก่ ไข่ขาว ปลา และเวย์โปรตีน ลดอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ทานผักใบเขียวและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม
เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อระหว่างการนอนหลับ อีกทั้งยังช่วยควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารอีกด้วย
การหายใจที่ถูกต้องระหว่างออกกำลังกายมีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรหายใจออกขณะออกแรง และหายใจเข้าขณะผ่อนแรง การกำหนดลมหายใจที่ดีจะช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ช่วยเสริมการสร้างซิกแพค เช่น ลูกกลิ้งบริหารหน้าท้อง เก้าอี้ซิทอัพ และเมดิซินบอล ล้วนช่วยเพิ่มความหลากหลายให้การฝึก ทำให้กล้ามเนื้อไม่ชินกับท่าทางเดิมๆ
การสร้างซิกแพคไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความสม่ำเสมอ การผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายที่ถูกต้อง การควบคุมอาหาร และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่าลืมว่าแต่ละคนมีพันธุกรรมและการตอบสนองต่อการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน จึงควรปรับแผนการฝึกให้เหมาะกับตัวเอง และหากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไร ลองมาเปิดประสบการณ์กับอุปกรณ์จริงและคลาสเรียน พร้อมเทรนเนอร์ได้ที่ Real Gym ตอนนี้ลงทะเบียนทดลองเล่นฟรี 3 วัน กดลงทะเบียนและดูสาขาของเราได้ที่นี่
1.ออกกำลังกายอย่างไรให้มีซิกแพคใน 1 เดือน?
การสร้างซิกแพคใน 1 เดือนต้องทำ 3 อย่างควบคู่กัน: ออกกำลังกายท่าเฉพาะ 3-4 ครั้ง/สัปดาห์, ควบคุมอาหารลดไขมัน และพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมง/วัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นฟู
2.ต้องมีเปอร์เซ็นต์ไขมันเท่าไหร่ถึงจะเห็นซิกแพค?
ผู้ชายต้องมีเปอร์เซ็นต์ไขมันประมาณ 10-12% ถึงจะเห็นซิกแพคชัดเจน โดยปกติผู้ชายทั่วไปจะมีไขมัน 15-20% ต้องลดลงมาจึงจะเห็นกล้ามชัด
3.ทำไมออกกำลังกายแล้วซิกแพคไม่ขึ้น?
สาเหตุหลักมาจากการมีไขมันหน้าท้องมากเกินไป ออกกำลังกายไม่ถูกท่า และการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้กล้ามเนื้อไม่เติบโต ต้องปรับทั้งการกินและการออกกำลังกายควบคู่กัน
4.กินอะไรช่วยสร้างซิกแพค?
ควรเน้นอาหารโปรตีนสูง-ไขมันต่ำ เช่น อกไก่ ไข่ขาว ปลา และโปรตีนเวย์ ลดคาร์โบไฮเดรตขัดขาว ทานผักใบเขียว และดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตร/วัน
5.ซิกแพคมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร?
ซิกแพคมี 3 แบบหลัก: 4-Pack, 6-Pack, และ 8-Pack ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและการฝึกฝน โดยแบบที่พบบ่อยที่สุดคือ 6-Pack ที่มี 6 ก้อนเรียงเป็น 2 แถว