ติดต่อเจ้าหน้าที่
×
เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

วิ่งเทมโป คือ อะไร? เทคนิคการวิ่งที่จะพาคุณสู่เป้าหมาย

วิ่งเทมโป คือ อะไร? เทคนิคการวิ่งที่จะพาคุณสู่เป้าหมาย

การวิ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยประโยชน์มากมายทั้งต่อสุขภาพกายและใจ แต่สำหรับนักวิ่งที่ต้องการพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น การรู้จักเทคนิคการวิ่งแบบต่างๆ จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น หนึ่งในเทคนิคที่นักวิ่งควรรู้จักคือ "วิ่งเทมโป" หรือ "วิ่ง Tempo" แต่ วิ่งเทมโป คือ อะไรกันแน่? และทำไมจึงสำคัญสำหรับนักวิ่ง? สำหรับใครที่อยากลองฝึกเทคนิคเหล่านี้อย่างจริงจัง แต่ยังไม่มีสถานที่หรืออยากหลีกเลี่ยงอากาศร้อนและฝุ่นนอกบ้าน ตอนนี้ REAL GYM เปิดให้ทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วันเต็ม คุณสามารถเลือกขึ้นลู่วิ่งคุณภาพเยี่ยม ฝึกวิ่งเทมโปได้แบบไม่ต้องกลัวฝน พร้อมมีคลาสเสริมกล้ามเนื้อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งได้อีกด้วย ทดลองได้ทุกคลาส ที่ 5 สาขาใกล้บ้านคุณ >> คลิกลงทะเบียนหรือดูสาขาของเราได้ที่นี่ เรามาทำความรู้จักกับการ วิ่งเทมโป กันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

วิ่งเทมโป คือ อะไร?

วิ่งเทมโป คือ การวิ่งที่มีการควบคุมความเร็วให้อยู่ในระดับที่เร็วกว่าความเร็วปกติ แต่ยังสามารถรักษาความเร็วนั้นได้เป็นระยะเวลานาน โดยทั่วไป วิ่ง Tempo คือ การวิ่งที่ใช้ความเร็วประมาณ 80-85% ของความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้ในการวิ่งระยะ 5 กิโลเมตร

การ วิ่งเทมโป มักจะใช้เวลาประมาณ 20-40 นาที ขึ้นอยู่กับระดับความฟิตและเป้าหมายของนักวิ่งแต่ละคน ระหว่างการ วิ่งเทมโป นักวิ่งจะรู้สึกว่ากำลังออกแรงมากกว่าปกติ แต่ยังสามารถควบคุมจังหวะการหายใจและการเคลื่อนไหวได้อย่างสม่ำเสมอ

บทความที่น่าสนใจ : รวม 5 เทคนิคการวิ่งทำให้คุณวิ่งได้นานขึ้น

ทำไมต้องวิ่งเทมโป?

การ วิ่งเทมโป มีประโยชน์มากมายสำหรับนักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งมือใหม่หรือนักวิ่งที่มีประสบการณ์ ต่อไปนี้คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ วิ่ง Tempo คือ เทคนิคที่นักวิ่งควรนำมาใช้ในการฝึกซ้อม:

  1. เพิ่มความเร็วและความทนทาน: การ วิ่งเทมโป ช่วยให้ร่างกายคุ้นเคยกับการวิ่งที่ความเร็วสูงขึ้น ทำให้สามารถวิ่งได้เร็วขึ้นและนานขึ้นในการแข่งขันจริง
  2. พัฒนาประสิทธิภาพการใช้ออกซิเจน: วิ่ง Tempo คือ การฝึกให้ร่างกายใช้ออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่ม VO2 max หรือความสามารถสูงสุดในการใช้ออกซิเจน
  3. เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ: การ วิ่งเทมโป ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการวิ่ง ทำให้วิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. พัฒนาจิตใจ: วิ่ง Tempo คือ5^ การฝึกความอดทนทางจิตใจ เพราะต้องรักษาความเร็วที่ท้าทายเป็นเวลานาน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจ
  5. ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ: เมื่อเทียบกับการวิ่งเร็วสุดกำลัง การ วิ่งเทมโป มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บน้อยกว่า แต่ยังคงได้ประโยชน์ในการพัฒนาความเร็วและความทนทาน
วิธีการวิ่งเทมโปที่ถูกต้อง

วิธีการวิ่งเทมโปที่ถูกต้อง

การ วิ่งเทมโป ให้ได้ผลดีนั้น มีหลักการสำคัญที่ควรทำความเข้าใจและปฏิบัติตาม ดังนี้:

  1. อบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอ: ก่อนเริ่ม วิ่งเทมโป ควรอบอุ่นร่างกายด้วยการวิ่งเบาๆ ประมาณ 10-15 นาที เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
  2. เริ่มด้วยความเร็วที่เหมาะสม: วิ่ง Tempo คือ การวิ่งที่ความเร็วประมาณ 80-85% ของความเร็วสูงสุดในระยะ 5 กิโลเมตร หรือความเร็วที่ทำให้รู้สึกว่ากำลังออกแรงมาก แต่ยังสามารถพูดคุยได้เป็นประโยคสั้นๆ
  3. รักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ: พยายามรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดการ วิ่งเทมโป ไม่เร่งหรือช้าลงจนเกินไป
  4. โฟกัสที่การหายใจ: หายใจให้สม่ำเสมอและลึก ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ
  5. รักษาท่าทางการวิ่งที่ถูกต้อง: ยืดตัวตรง ก้าวเท้าให้กระชับ และแกว่งแขนอย่างมีประสิทธิภาพ
  6. คูลดาวน์หลังจบการวิ่ง: หลังจบการ วิ่งเทมโป ควรวิ่งเบาๆ ต่ออีก 5-10 นาทีเพื่อคูลดาวน์ร่างกาย

การวางแผนการฝึกวิ่งเทมโป

การวางแผนการฝึก วิ่งเทมโป ที่ดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการวางแผนการฝึก วิ่งเทมโป:

  1. เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มด้วยการ วิ่งเทมโป เป็นเวลา 15-20 นาที และค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ
  2. ทำการวิ่งเทมโปสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง: ไม่ควรทำการ วิ่งเทมโป บ่อยเกินไป เพราะร่างกายต้องการเวลาในการฟื้นฟู
  3. ผสมผสานกับการวิ่งแบบอื่นๆ: วิ่ง Tempo คือ เพียงส่วนหนึ่งของแผนการฝึกซ้อม ควรผสมผสานกับการวิ่งแบบอื่นๆ เช่น การวิ่งระยะยาวช้าๆ และการวิ่งแบบอินเตอร์วาล
  4. ปรับความเร็วตามเป้าหมาย: หากต้องการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน ให้ปรับความเร็วในการ วิ่งเทมโป ให้ใกล้เคียงกับความเร็วเป้าหมายในการแข่งขัน
  5. ให้เวลาร่างกายได้พัก: ควรมีวันพักระหว่างการ วิ่งเทมโป แต่ละครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและปรับตัว

บทความที่น่าสนใจ : วิ่งอย่างไรให้ถูกวิธี เซฟข้อเข่า เซฟข้อเท้า !

ข้อควรระวังในการวิ่งเทมโป

แม้ว่า วิ่งเทมโป คือ วิธีการฝึกซ้อมที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังที่นักวิ่งควรคำนึงถึง:

  1. อย่าหักโหมจนเกินไป: การ วิ่งเทมโป เป็นการฝึกที่หนัก ไม่ควรทำบ่อยเกินไปหรือนานเกินไป
  2. ฟังสัญญาณจากร่างกาย: หากรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายระหว่างการ วิ่งเทมโป ให้หยุดทันที
  3. ไม่ควรทำทุกวัน: ควรมีวันพักระหว่างการ วิ่งเทมโป แต่ละครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู
  4. อย่าละเลยการอบอุ่นร่างกาย: การอบอุ่นร่างกายอย่างเพียงพอก่อนการ วิ่งเทมโป จะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีโรคประจำตัวหรือเพิ่งเริ่มต้นวิ่ง ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ฝึกสอนก่อนเริ่มการ วิ่งเทมโป
เทคนิคเสริมเพื่อการ วิ่งเทมโป ที่มีประสิทธิภาพ

เทคนิคเสริมเพื่อการวิ่งเทมโปที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากการปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของการ วิ่งเทมโป แล้ว ยังมีเทคนิคเสริมที่จะช่วยให้การ วิ่ง Tempo ของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น:

  1. ใช้นาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ: การใช้นาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจจะช่วยให้คุณควบคุมความเข้มข้นของการ วิ่งเทมโป ได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยทั่วไป อัตราการเต้นของหัวใจขณะ วิ่งเทมโป ควรอยู่ที่ประมาณ 85-90% ของอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจ
  2. ฝึกการหายใจแบบไดอะแฟรม: การหายใจแบบไดอะแฟรม หรือการหายใจลึกๆ โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลม จะช่วยให้คุณได้รับออกซิเจนมากขึ้นขณะ วิ่งเทมโป ทำให้สามารถรักษาความเร็วได้นานขึ้น
  3. ใช้เทคนิคการวิ่งแบบ Fartlek: Fartlek เป็นเทคนิคการวิ่งที่สลับความเร็วสูงและต่ำ คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการ วิ่งเทมโป โดยสลับช่วงความเร็วเทมโปกับการวิ่งเบาๆ เพื่อเพิ่มความท้าทายและความหลากหลาย
  4. ฝึกความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว: การมีแกนกลางลำตัวที่แข็งแรงจะช่วยให้คุณรักษาท่าทางการวิ่งที่ดีได้นานขึ้นระหว่างการ วิ่งเทมโป ลองเพิ่มการฝึกความแข็งแรงของแกนกลางลำตัวเข้าไปในโปรแกรมการฝึกของคุณ
  5. ใช้เทคนิคการจินตนาการ: ก่อนและระหว่างการ วิ่งเทมโป ลองใช้เทคนิคการจินตนาการ โดยนึกภาพตัวเองกำลังวิ่งด้วยความเร็วและท่าทางที่สมบูรณ์แบบ เทคนิคนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและปรับปรุงประสิทธิภาพการวิ่งของคุณ
  6. ปรับการ วิ่งเทมโป ตามสภาพภูมิประเทศ: หากคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในเส้นทางที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน ลองปรับการ วิ่งเทมโป ให้รวมเส้นทางที่มีความชันบ้าง เพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

บทความที่น่าสนใจ : วิ่งอย่างไรให้เร็วขึ้น !

 

ทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วัน ที่ Real Gym : มี 5 สาขาใกล้บ้านคุณ ครบทุกเครื่อง – คลาส – เทรนเนอร์ เล่นฟรีทุกคลาส

กดลงทะเบียนและดูสาขาใกล้บ้านคุณได้ที่นี่


อุปกรณ์ออกกำลังกายที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้



การประยุกต์ใช้วิ่งเทมโปในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน

การ วิ่งเทมโป เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว ต่อไปนี้คือวิธีการประยุกต์ใช้ วิ่ง Tempo ในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันระยะต่างๆ:

  1. การแข่งขันวิ่ง 5K: สำหรับการแข่งขันระยะ 5 กิโลเมตร ลองทำการ วิ่งเทมโป เป็นระยะทาง 2-3 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าความเร็วเป้าหมายในการแข่งขันเล็กน้อย
  2. การแข่งขันวิ่ง 10K: สำหรับระยะ 10 กิโลเมตร ทำการ วิ่งเทมโป เป็นระยะทาง 4-6 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับความเร็วเป้าหมายในการแข่งขัน
  3. การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน: สำหรับระยะฮาล์ฟมาราธอน (21.1 กิโลเมตร) ลองทำการ วิ่งเทมโป เป็นระยะเวลา 30-45 นาที ด้วยความเร็วที่ช้ากว่าความเร็วเป้าหมายในการแข่งขันเล็กน้อย
  4. การแข่งขันวิ่งมาราธอน: สำหรับระยะมาราธอน (42.2 กิโลเมตร) ทำการ วิ่งเทมโป เป็นระยะเวลา 45-60 นาที ด้วยความเร็วที่ช้ากว่าความเร็วเป้าหมายในการแข่งขันประมาณ 10-15 วินาทีต่อกิโลเมตร

แผนซ้อมวิ่งมาราธอนบนลู่วิ่งไฟฟ้า

การวัดผลและติดตามความก้าวหน้าในการวิ่งเทมโป

การวัดผลและติดตามความก้าวหน้าในการวิ่งเทมโป

การวัดผลและติดตามความก้าวหน้าเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการ วิ่งเทมโป ของคุณ ต่อไปนี้คือวิธีการที่คุณสามารถใช้เพื่อติดตามความก้าวหน้า:

  1. บันทึกเวลาและระยะทาง: จดบันทึกเวลาและระยะทางในแต่ละครั้งที่คุณทำการ วิ่งเทมโป เพื่อดูว่าคุณสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นหรือเร็วขึ้นหรือไม่
  2. ใช้แอพพลิเคชันติดตามการวิ่ง: แอพพลิเคชันเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับการ วิ่งเทมโป ของคุณ รวมถึงความเร็วเฉลี่ย อัตราการเต้นของหัวใจ และแม้แต่การวิเคราะห์รูปแบบการวิ่ง
  3. ทำการทดสอบเป็นระยะ: ทุกๆ 4-6 สัปดาห์ ลองทำการทดสอบ เช่น วิ่งระยะ 5 กิโลเมตรด้วยความเร็วสูงสุด เพื่อดูว่าการ วิ่งเทมโป ช่วยปรับปรุงความเร็วและความทนทานของคุณหรือไม่
  4. สังเกตความรู้สึกของร่างกาย: นอกจากตัวเลข ให้สังเกตว่าการ วิ่งเทมโป รู้สึกง่ายขึ้นหรือไม่ คุณสามารถรักษาความเร็วได้นานขึ้นหรือไม่
  5. ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ: หากคุณใช้นาฬิกาวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ให้สังเกตว่าอัตราการเต้นของหัวใจของคุณลดลงสำหรับความเร็วเดียวกันหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณของการพัฒนาความฟิต

สรุป

วิ่งเทมโป คือ เทคนิคการวิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการพัฒนาความเร็วและความทนทานของนักวิ่ง การ วิ่ง Tempo ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงสมรรถภาพทางกายเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางจิตใจอีกด้วย

การ วิ่งเทมโป อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ ผสมผสานกับการวิ่งแบบอื่นๆ และการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการวิ่งได้เร็วขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งมือใหม่ที่ต้องการพัฒนาตัวเอง หรือนักวิ่งที่มีประสบการณ์ที่ต้องการทำลายสถิติส่วนตัว การ วิ่งเทมโป จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายนั้น

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมทุกรูปแบบ การ วิ่งเทมโป ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปและฟังสัญญาณจากร่างกายของคุณเสมอ หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือโค้ชการวิ่งเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณ

เริ่มต้นการ วิ่งเทมโป วันนี้ และก้าวไปสู่การเป็นนักวิ่งที่เร็วขึ้น แข็งแรงขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย!

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่งคุณภาพสูง พื้นที่เวทเทรนนิ่ง หรือคลาสที่ช่วยเสริมสมรรถภาพนักวิ่งโดยเฉพาะ REAL GYM เปิดให้คุณทดลองเล่นฟรี 3 วันเต็ม พร้อมให้คุณเข้าร่วมทุกคลาสได้แบบไม่จำกัด และเลือกสาขาที่ใกล้บ้านจาก 5 ทำเลทั่วกรุงเทพ

ลงทะเบียนทดลองเล่นฟิตเนสฟรี 3 วันหรือดูสาขาของเราได้ที่นี่


บทความนี้เขียนโดย...


โค้ชปูแน่น

โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)


เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ

โปรไฟล์โค้ชปูแน่น

บทความทั้งหมด