ติดต่อเจ้าหน้าที่
เครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกําลังกาย อุปกรณ์ฟิตเนส
view-th view-en
ตะกร้า 0 ตะกร้าสินค้า

โลว์คาร์บคืออะไร? ฟังคำตอบจากโค้ชปูแน่น

โลว์คาร์บคืออะไร? ฟังคำตอบจากโค้ชปูแน่น

สวัสดีครับ! โค้ชปูแน่นขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่บทความที่จะพาคุณเข้าใจการกินแบบ Low Carb หรือการกินพร่องแป้งอย่างละเอียดและลึกที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา หลายคนอาจสงสัยว่าโลว์คาร์บคืออะไร? แล้วมันเหมาะกับใคร? หรือจะเริ่มต้นยังไงให้ถูกต้อง? วันนี้โค้ชจะมาช่วยไขข้อข้องใจทั้งหมด พร้อมแนะนำเมนูอร่อย ๆ ที่ทำตามได้ง่าย ๆ

โลว์คาร์บคืออะไร?

Low Carb คือแนวทางการกินอาหารที่ลดคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารให้น้อยลง โดยเลือกทดแทนด้วยโปรตีนและไขมันที่ดี เช่น ปลา ไข่ อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก แนวคิดหลักคือการช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานแทนที่จะใช้คาร์โบไฮเดรต

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการกินโลว์คาร์บหมายถึงการงดแป้งทั้งหมด ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย! เราแค่ต้องเลือกแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดี เช่น ผักใบเขียว หรือธัญพืชเต็มเมล็ด เพราะร่างกายยังต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อสร้างพลังงานในบางส่วน เพียงแค่เราควบคุมปริมาณให้เหมาะสมเท่านั้นครับ”

จากงานวิจัยของ The American Journal of Clinical Nutrition พบว่าผู้ที่กินอาหารแบบ Low Carb อย่างต่อเนื่องสามารถลดน้ำหนักเฉลี่ยได้มากกว่าผู้ที่กินแบบ Low Fat ถึง 2 เท่าในระยะเวลา 6 เดือน และยังช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

20 เมนูอาหาร Low Carb พร้อมคำแนะนำจากโค้ชปูแน่น

20 เมนูอาหาร Low Carb

การเริ่มต้นกิน Low Carb ไม่จำเป็นต้องซับซ้อนหรือยุ่งยาก! โค้ชได้รวบรวม 20 เมนูอร่อย ง่ายต่อการเตรียม พร้อมข้อมูลโภชนาการและคำแนะนำเฉพาะตัวจากโค้ช มาดูกันเลยครับ

1. สลัดไก่ย่างกับน้ำสลัดงาญี่ปุ่น

โภชนาการ: โปรตีน 30 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม

ราคา: 70 บาท

วิธีทำ:

  • ย่างอกไก่ 100 กรัมจนสุกเหลืองหอม
  • เตรียมผักสลัด เช่น ผักกาดแก้ว แตงกวา และมะเขือเทศ
  • ราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่นเล็กน้อย เพิ่มความหอม

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองกิน Low Carb แบบง่าย ๆ ผมแนะนำให้เพิ่มไข่ต้มครึ่งฟอง เพื่อเพิ่มไขมันดีและทำให้อิ่มนานขึ้น หรือหากต้องการพลังงานที่ยาวนานขึ้น อาจเพิ่มอะโวคาโดฝานบาง ๆ ลงไปด้วยครับ”

 

2. ปลาแซลมอนย่างกับหน่อไม้ฝรั่ง

โภชนาการ: โปรตีน 35 กรัม, ไขมัน 12 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม

ราคา: 150 บาท

วิธีทำ:

  • ใช้แซลมอนสดประมาณ 150 กรัม ทาน้ำมันมะกอกบาง ๆ และย่างในกระทะจนสุก
  • ผัดหน่อไม้ฝรั่งกับกระเทียมและเกลือเล็กน้อย
  • จัดเสิร์ฟคู่กันในจานสวย ๆ

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ถ้ารู้สึกว่าราคาแซลมอนสูงเกินไป ลองเปลี่ยนมาใช้ปลากะพงหรือปลานิลแทนก็ได้ครับ รสชาติอาจแตกต่างเล็กน้อย แต่ยังคงความเป็น Low Carb และได้โปรตีนคุณภาพเหมือนกัน หรือเพิ่มรสชาติด้วยเลมอนฝานบาง ๆ เพื่อความสดชื่นครับ”

 

3. แกงจืดเต้าหู้หมูสับ

โภชนาการ: โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม

ราคา: 60 บาท

วิธีทำ:

  • ต้มน้ำซุป ใส่หมูสับและเต้าหู้ขาว
  • เติมผักกาดขาวและเห็ดหอม
  • ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“แกงจืดเป็นเมนูเบา ๆ ที่อิ่มสบายท้อง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมื้ออาหารที่ย่อยง่ายในวันพักผ่อน โค้ชแนะนำให้ใช้เต้าหู้ไข่แทนเต้าหู้ขาว เพื่อเพิ่มโปรตีนและไขมันดี และเติมกระเทียมเจียวสักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ หรือหากอยากทำเป็นมื้อใหญ่ ใส่ผักหลากสีเพิ่มเติม เช่น แครอทหรือผักโขม ก็ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารได้ครับ”

 

4. อกไก่อบกับหน่อไม้ฝรั่ง

โภชนาการ: โปรตีน 30 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 90 บาท

วิธีทำ:

  • หมักอกไก่ 150 กรัมด้วยเกลือและพริกไทย
  • อบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C ประมาณ 15 นาที
  • เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งที่ย่างในกระทะ

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะกับคนที่ชอบอาหารง่าย ๆ แต่ดูดีเหมือนในร้านอาหาร โค้ชแนะนำให้คุณปรับรสชาติด้วยการใช้สมุนไพร เช่น โรสแมรี่หรือไทม์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และหากไม่มีเตาอบ คุณสามารถใช้กระทะเทฟลอนย่างแทนได้ ผลลัพธ์ก็จะยังคงอร่อยและสุขภาพดีครับ”

 

5. ไข่คนใส่ชีสกับอะโวคาโด

โภชนาการ: โปรตีน 15 กรัม, ไขมัน 18 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม

ราคา: 50 บาท

วิธีทำ:

  • ตีไข่ 2 ฟอง ใส่ชีสขูดฝอย
  • ผัดในกระทะด้วยไฟอ่อนจนไข่สุกนุ่ม
  • เสิร์ฟพร้อมอะโวคาโดหั่นบาง

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“นี่เป็นมื้อเช้าที่รวดเร็ว อร่อย และให้พลังงานเต็มเปี่ยม โค้ชแนะนำให้เพิ่มสมุนไพรสด เช่น พาร์สลีย์หรือผักชีลาว เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนจากชีสธรรมดาเป็นชีสไขมันต่ำ หากคุณกำลังควบคุมแคลอรีในระยะลดไขมันครับ”

 

6. ยำปลากระป๋องใส่ผัก

โภชนาการ: โปรตีน 25 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม

ราคา: 35 บาท

วิธีทำ:

  • ใช้ปลากระป๋อง 1 กระป๋อง (เลือกชนิดในน้ำแร่หรือน้ำมันมะกอก)
  • ผสมกับหอมแดงซอย มะนาว พริกสด และขึ้นฉ่าย
  • คลุกเคล้าให้เข้ากัน

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ยำปลากระป๋องเหมาะสำหรับวันที่คุณรีบหรือไม่อยากทำอาหารซับซ้อน โค้ชแนะนำให้เลือกปลากระป๋องชนิดในน้ำแร่ เพราะมีโซเดียมต่ำกว่า และเสิร์ฟคู่กับผักสด เช่น แตงกวา หรือกะหล่ำปลีฝอย เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และลดรสชาติเค็มได้ดีครับ”

 

7. ซุปฟักทอง

โภชนาการ: โปรตีน 5 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม

ราคา: 40 บาท

วิธีทำ:

  • ต้มฟักทองหั่นชิ้นเล็กในน้ำซุปไก่จนสุก
  • บดฟักทองให้ละเอียด แล้วเติมนมอัลมอนด์ 1 ถ้วย
  • ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ซุปฟักทองเป็นเมนูที่อร่อยและเหมาะสำหรับมื้อเย็นวันสบาย ๆ ฟักทองเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ โค้ชแนะนำให้เติมพริกป่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติและช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายครับ”

 

8. ผัดผักรวมอกไก่

โภชนาการ: โปรตีน 25 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม

ราคา: 70 บาท

วิธีทำ:

  • หั่นอกไก่เป็นชิ้นพอดีคำ
  • ผัดกระเทียมในน้ำมันมะกอกเล็กน้อย
  • ใส่ผักรวม เช่น บรอกโคลี แครอท และดอกกะหล่ำ
  • ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะสำหรับมื้อกลางวันหลังออกกำลังกายที่ต้องการโปรตีนสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำ โค้ชแนะนำให้เพิ่มถั่วลันเตาหรือถั่วแดงต้มเล็กน้อย เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และความอิ่มนานขึ้นครับ”

 

9. สเต็กเนื้อกับผักโขม

โภชนาการ: โปรตีน 35 กรัม, ไขมัน 15 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 150 บาท

วิธีทำ:

  • ย่างเนื้อสันใน 200 กรัมจนได้ระดับความสุกที่ชอบ
  • ผัดผักโขมกับกระเทียมและน้ำมันมะกอก
  • เสิร์ฟพร้อมกันในจาน

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“สำหรับคนที่ชอบกินเนื้อ เมนูนี้คือที่สุดของความอร่อย โค้ชแนะนำให้เลือกเนื้อที่ไม่ติดมัน เพื่อรักษาสมดุลไขมันในมื้ออาหาร และหากต้องการเพิ่มความพิเศษ ลองราดซอสพริกไทยดำแบบโฮมเมด จะช่วยเพิ่มรสชาติแบบมือโปรครับ”

 

10. ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง

โภชนาการ: โปรตีน 18 กรัม, ไขมัน 8 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 50 บาท

วิธีทำ:

  • ตีไข่ 2 ฟอง ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย
  • ใส่หมูสับและเห็ดหอม
  • นึ่งจนสุก

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะกับมื้อเช้าหรือมื้อเย็นในวันที่ต้องการอาหารเบา ๆ โค้ชแนะนำให้เพิ่มต้นหอมซอยและซีอิ๊วขาวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติ หรืออาจเสิร์ฟคู่กับผักสดเพื่อเพิ่มไฟเบอร์ครับ”

 

11. ยำกุ้งสด

โภชนาการ: โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 2 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 80 บาท

วิธีทำ:

  • ลวกกุ้ง 100 กรัมให้สุก
  • คลุกกับหอมแดงซอย พริกสด น้ำปลา และน้ำมะนาว
  • ใส่ผักสด เช่น ผักชีและขึ้นฉ่าย

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ยำกุ้งสดเป็นเมนูที่อร่อยแถมยัง Low Carb อย่างแท้จริง โค้ชแนะนำให้ลดปริมาณน้ำปลาและเพิ่มพริกเพื่อความเผ็ดจัดจ้าน จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญและลดโซเดียมในมื้ออาหารครับ”

 

12. อกไก่พันเบคอน

โภชนาการ: โปรตีน 30 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม

ราคา: 90 บาท

วิธีทำ:

  • ห่ออกไก่ด้วยเบคอนไม่ติดมัน
  • อบในเตา 180°C ประมาณ 15 นาที

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้อาจดูเรียบง่ายแต่ให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น โค้ชแนะนำให้เสิร์ฟคู่กับสลัดผักสด เพื่อเพิ่มไฟเบอร์และตัดความเลี่ยนของเบคอนครับ”

 

13. ข้าวดอกกะหล่ำผัดไข่

โภชนาการ: โปรตีน 10 กรัม, ไขมัน 5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม

ราคา: 50 บาท

วิธีทำ:

  • บดดอกกะหล่ำจนละเอียดเหมือนเม็ดข้าว
  • ผัดในกระทะกับไข่ 1 ฟองและน้ำมันมะกอก
  • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ข้าวดอกกะหล่ำเป็นตัวเลือกแทนข้าวที่ดีสำหรับคนกิน Low Carb โค้ชแนะนำให้ใส่เนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หรือกุ้ง เพื่อเพิ่มโปรตีนและรสชาติในจานนี้ครับ”

 

14. แกงเขียวหวานไก่ใส่กะทิ

โภชนาการ: โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 15 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม

ราคา: 80 บาท

วิธีทำ:

  • ใช้อกไก่หั่นชิ้น ต้มในกะทิ
  • ใส่เครื่องแกงเขียวหวานและผัก เช่น มะเขือพวง

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะกับคนที่ยังอยากได้รสชาติแบบไทย ๆ โค้ชแนะนำให้ใช้กะทิสดเพื่อความหอมและรสชาติดีกว่าแบบกล่อง และหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลในแกงครับ”

 

15. น้ำพริกปลาทูคู่ผักสด

โภชนาการ: โปรตีน 15 กรัม, ไขมัน 3 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 2 กรัม

ราคา: 60 บาท

วิธีทำ:

  • ตำน้ำพริกจากพริกขี้หนู กระเทียม และน้ำมะนาว
  • เสิร์ฟคู่ปลาทูย่างและผักสด

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูบ้าน ๆ แต่คลาสสิก น้ำพริกช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดี โค้ชแนะนำให้เลือกผักหลากสีเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในจานนี้ครับ”

 

16. สลัดโรลกุ้ง

โภชนาการ: โปรตีน 18 กรัม, ไขมัน 5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม

ราคา: 50 บาท

วิธีทำ:

  • ใช้แป้งเปาะเปี๊ยะห่อผักสดและกุ้งลวก
  • จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้เหมาะกับวันที่ต้องการอะไรเบา ๆ โค้ชแนะนำให้ลดน้ำจิ้มเพื่อควบคุมโซเดียม และเพิ่มผักในโรลเพื่อความอิ่มที่นานขึ้นครับ”

 

17. ไส้กรอกไก่ย่างกับสลัดผักสด

โภชนาการ: โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 60 บาท

วิธีทำ:

  • เลือกไส้กรอกไก่คุณภาพที่ไม่มีแป้งหรือสารปรุงแต่งมาก
  • ย่างจนสุกหอม
  • เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น ผักกาดแก้ว แตงกวา

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ไส้กรอกมักจะถูกเข้าใจผิดว่าไม่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก แต่ถ้าคุณเลือกแบบไม่มีแป้งหรือโซเดียมต่ำ มันก็เป็นตัวเลือกที่ดี โค้ชแนะนำให้จับคู่กับสลัดน้ำใส เพื่อความสดชื่นและรักษาสมดุลของมื้ออาหารครับ”

 

18. กุ้งกระเทียมพริกไทย

โภชนาการ: โปรตีน 25 กรัม, ไขมัน 7 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม

ราคา: 80 บาท

วิธีทำ:

  • ล้างกุ้งสด 150 กรัม
  • ผัดกับกระเทียมเจียว พริกไทย และน้ำมันมะกอก
  • เสิร์ฟพร้อมผักเคียง

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“เมนูนี้ง่ายและอร่อยเหมาะกับมื้อเย็น โค้ชแนะนำให้เลือกกุ้งสดที่ยังไม่ผ่านการแช่แข็ง เพื่อรสชาติที่ดีกว่า และอย่าลืมเพิ่มผักใบเขียวเพื่อเพิ่มไฟเบอร์ในจานนี้ครับ”

 

19. หมูย่างเกาหลี

โภชนาการ: โปรตีน 30 กรัม, ไขมัน 12 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม

ราคา: 100 บาท

วิธีทำ:

  • ใช้เนื้อหมูสันนอกหมักกับเกลือและพริกไทย
  • ย่างจนสุกเกรียมหอม
  • เสิร์ฟพร้อมกิมจิ

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“ใครที่อยากได้กลิ่นอายเกาหลี เมนูนี้เหมาะมาก โค้ชแนะนำให้ทำกิมจิเองหรือเลือกซื้อแบบที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้หลุดจากการกินแบบ Low Carb ครับ”

 

20. น้ำพริกอ่อง

โภชนาการ: โปรตีน 15 กรัม, ไขมัน 10 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 5 กรัม

ราคา: 70 บาท

วิธีทำ:

  • ผัดหมูสับกับพริกแกงและมะเขือเทศ
  • ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย
  • เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวา หรือถั่วฝักยาว

คำแนะนำจากโค้ชปูแน่น:

“น้ำพริกอ่องเป็นเมนูเหนือที่รสชาติกลมกล่อม โค้ชแนะนำให้ลดน้ำตาลในสูตร และเพิ่มเนื้อหมูให้เยอะขึ้น เพื่อให้ได้โปรตีนมากพอในมื้อนั้นครับ”

 

ครบแล้วกับ 20 เมนู Low Carb ที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดคาร์โบไฮเดรต แต่ยังให้รสชาติและสารอาหารครบถ้วน พร้อมคำแนะนำแบบจัดเต็มจากโค้ชปูแน่น สำหรับใครที่ยังมีคำถามเกี่ยวกับการเริ่มต้น Low Carb หรืออยากได้คำแนะนำเพิ่มเติม ทักโค้ชมาได้เสมอครับ

 

10 ข้อดีของการกินอาหารแบบ Low Carb

10ข้อดีการกินโลว์คาร์บ

1. ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

การลดคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารทำให้ระดับอินซูลินในร่างกายลดลง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการสะสมไขมันในร่างกาย เมื่ออินซูลินลดลง ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้น้ำหนักลดลงได้รวดเร็วและต่อเนื่อง

โค้ชปูแน่นเล่า:

“โค้ชเคยแนะนำลูกค้าที่ต้องการลดไขมันด่วน แต่ไม่อยากเสียมวลกล้ามเนื้อ การกินแบบ Low Carb ช่วยให้เขาลดน้ำหนักได้ถึง 5 กิโลกรัมภายใน 6 สัปดาห์ โดยไม่ต้องลดแคลอรีอย่างมาก ทั้งยังรู้สึกกระฉับกระเฉงมากขึ้น”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก New England Journal of Medicine (2003) ทดลองในกลุ่มคน 132 คนที่กิน Low Carb พบว่าพวกเขาลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่มที่กิน Low Fat ถึง 3 เท่าในช่วง 6 เดือนแรก โดยไม่ต้องจำกัดปริมาณอาหาร

 

2. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

Low Carb ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน เนื่องจากการลดคาร์โบไฮเดรตช่วยลดการพุ่งขึ้นของน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร

โค้ชปูแน่นแชร์:

“ลูกค้าคนหนึ่งของโค้ชเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หลังเริ่ม Low Carb ระดับน้ำตาลในเลือดของเขาลดลงจนสามารถลดการใช้ยาลงได้ใน 3 เดือน และเขาบอกว่าไม่เคยรู้สึกควบคุมสุขภาพได้ดีขนาดนี้มาก่อน”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

การศึกษาใน Diabetes Care Journal (2019) โดยติดตามผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 262 คน พบว่าการกิน Low Carb ช่วยลดน้ำตาลในเลือดเฉลี่ย (HbA1c) ลงได้ถึง 1.5% ภายใน 6 เดือน และผู้ป่วย 94% สามารถลดการใช้ยาควบคุมเบาหวานได้

 

3. ลดความอยากอาหารจุกจิก

การเพิ่มโปรตีนและไขมันดีในมื้ออาหารช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (Leptin) และลดฮอร์โมนความหิว (Ghrelin) ทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน ลดความอยากขนมจุกจิกและของหวาน

โค้ชปูแน่นเล่า:

“โค้ชเคยมีปัญหาอยากกินของหวานหลังมื้ออาหาร แต่พอเปลี่ยนมื้อเช้าเป็นไข่คนกับอะโวคาโดแทนขนมปัง ความอยากน้ำตาลในช่วงบ่ายหายไปเลย นี่คือความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก Appetite Journal (2015) ที่ทดลองกับคน 500 คน พบว่าการเพิ่มโปรตีนและไขมันในอาหารช่วยลดความอยากขนมระหว่างวันได้ถึง 70% และทำให้คนทานมื้อหลักน้อยลงโดยธรรมชาติ

 

4. ลดไขมันหน้าท้อง

Low Carb เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและเบาหวาน

โค้ชปูแน่นแชร์:

“ลูกค้าของโค้ชที่ต้องการลดไขมันเฉพาะหน้าท้อง โค้ชปรับโปรแกรมให้เป็น Low Carb พร้อมเวทเทรนนิ่งในเวลา 8 สัปดาห์ หน้าท้องของเขาเริ่มแบนราบ และเส้นกล้ามเนื้อเริ่มชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วมาก”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก Annals of Internal Medicine (2004) ศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง 120 คน พบว่าผู้ที่กิน Low Carb ลดไขมันหน้าท้องได้มากกว่าผู้ที่กินแบบ Low Fat ถึง 30% ภายใน 6 เดือน

 

5. เพิ่มพลังงานในระยะยาว

เมื่อร่างกายปรับตัวให้ใช้ไขมันเป็นพลังงานแทนคาร์โบไฮเดรต จะทำให้พลังงานมีความคงที่ ไม่เกิดอาการพลังงานดรอประหว่างวัน

โค้ชปูแน่นแนะนำ:

“ในช่วงที่โค้ชเตรียมแข่งเพาะกาย โค้ชกินแบบ Low Carb ตลอด พลังงานที่ได้จากไขมันช่วยให้โค้ชมีแรงซ้อมทุกวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า และยังช่วยให้สมาธิระหว่างซ้อมดีขึ้นด้วยครับ”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก Cell Metabolism (2017) ที่ศึกษาในกลุ่มนักกีฬาจำนวน 150 คน พบว่าผู้ที่กินแบบ Low Carb มีพลังงานคงที่ระหว่างการออกกำลังกาย และสามารถออกกำลังได้นานกว่าเดิม 15%

 

6. ช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL)

Low Carb เน้นการบริโภคไขมันดีจากแหล่งธรรมชาติ เช่น ปลาแซลมอน น้ำมันมะกอก และอะโวคาโด ซึ่งช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) และลดไขมันเลว (LDL)

โค้ชปูแน่นแชร์:

“ลูกค้าหลายคนของโค้ชกลัวไขมันตอนเริ่มกิน Low Carb แต่พอเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร ผลตรวจเลือดของพวกเขาพบว่าระดับ LDL ลดลง และ HDL เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเวลา 3 เดือน”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก Journal of Lipid Research (2010) ระบุว่าการกินไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสมช่วยลด LDL ลงเฉลี่ย 25% และเพิ่ม HDL ขึ้นถึง 15% ในกลุ่มคนที่กิน Low Carb

 

7. ลดการอักเสบในร่างกาย

การลดน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตแปรรูปช่วยลดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคข้อเสื่อม

โค้ชปูแน่นเล่าจากประสบการณ์:

“โค้ชเคยมีปัญหาข้อต่ออักเสบช่วงออกกำลังกายหนัก แต่หลังจากปรับมาเป็น Low Carb อาการปวดอักเสบลดลงอย่างชัดเจน และฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิมมาก ลูกค้าที่มีปัญหาเดียวกันก็ได้ผลลัพธ์คล้าย ๆ กัน”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก The American Journal of Clinical Nutrition (2013) ที่ศึกษาในคน 1,000 คน พบว่าผู้ที่ลดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในอาหารลดระดับ CRP (ตัวบ่งชี้การอักเสบ) ได้ถึง 40% ภายใน 3 เดือน

 

8. ส่งเสริมการทำงานของสมอง

Low Carb ช่วยให้ร่างกายผลิตคีโตน ซึ่งเป็นพลังงานที่สมองสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่ากลูโคส

โค้ชปูแน่นเล่าประสบการณ์:

“ในช่วงที่โค้ชต้องทำงานหนัก การกิน Low Carb ช่วยให้สมองทำงานได้ดีและมีสมาธิตลอดวัน เพราะคีโตนที่ผลิตจากไขมันช่วยให้พลังงานสมองคงที่มากขึ้น”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยจาก Frontiers in Neuroscience (2020) ระบุว่าคีโตนช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ และปรับปรุงความจำในกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คนที่กิน Low Carb

 

9. ปรับปรุงระบบเผาผลาญในร่างกาย

การลดการพึ่งพาคาร์โบไฮเดรตและหันมาใช้ไขมันเป็นพลังงาน ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายจะปรับตัวเข้าสู่การเผาผลาญไขมันสะสมแทน ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีระบบเผาผลาญต่ำหรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน

โค้ชปูแน่นแชร์ประสบการณ์:

“โค้ชเคยมีลูกค้าที่น้ำหนักไม่ลดเลยแม้จะลดแคลอรีไปเยอะ เมื่อเปลี่ยนมาใช้การกินแบบ Low Carb พร้อมเวทเทรนนิ่ง น้ำหนักเริ่มลงเร็วขึ้นใน 4 สัปดาห์แรก และไขมันส่วนเกินลดลงอย่างชัดเจน เพราะร่างกายเขาปรับเข้าสู่โหมดเผาผลาญไขมันได้อย่างเต็มที่”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

การศึกษาโดย New England Journal of Medicine (2018) ในกลุ่มผู้มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม 1,000 คน พบว่าผู้ที่กินแบบ Low Carb มีการปรับปรุงระดับอินซูลินและการเผาผลาญไขมันได้ดีกว่าผู้ที่กินแบบ Low Fat โดยระดับไขมันสะสมลดลงเฉลี่ย 20% ภายใน 6 เดือน

 

10. ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

การลดคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดี เช่น น้ำตาลและแป้งขัดขาว และหันมาเพิ่มไขมันดีในอาหาร ช่วยปรับสมดุลไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต และลดการอักเสบเรื้อรังในหลอดเลือด ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

โค้ชปูแน่นแนะนำ:

“โค้ชแนะนำการกินแบบ Low Carb ให้ลูกค้าที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ โดยเน้นไขมันดีจากปลาแซลมอน น้ำมันมะกอก และถั่วอัลมอนด์ หลังจาก 6 เดือน ผลตรวจไขมันในเลือดและความดันของพวกเขาดีขึ้นมาก ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนครับ”

สนับสนุนจากงานวิจัย:

งานวิจัยใน The Lancet (2017) ศึกษากับผู้ร่วมทดลอง 2,500 คน พบว่าผู้ที่กินแบบ Low Carb มีระดับไขมันดี (HDL) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 25% และลดระดับความดันโลหิตลงได้ถึง 12 mmHg โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

 

สรุป 10 ข้อดีของการกินอาหารแบบ Low Carb

Low Carb ไม่ใช่แค่แนวทางการลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยปรับปรุงสุขภาพในหลายด้าน ทั้งการควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดไขมันสะสม เพิ่มพลังงาน และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง โค้ชปูแน่นแนะนำให้คุณเริ่มต้นด้วยการปรับเปลี่ยนทีละนิด เช่น ลดข้าว เพิ่มโปรตีน และเพิ่มไขมันดีในมื้ออาหาร รับรองว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า!

 

อ่านเนื้อหาต่อที่นี่


บทความนี้เขียนโดย...


โค้ชปูแน่น

โค้ชปูแน่น (ปู จักรินทร์ บุญลาภ)


เป็น CEO และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทีมเทรนเนอร์ในฟิตเนสของตัวเองที่ Real Gym ซาฟารีเวิลด์ รวมถึงแบรนด์อาหารเสริม และที่ปรึกษาด้าน Training Quality ให้กับทีมเทรนเนอร์ของ Sport club และฟิตเนสชั้นนำ

โปรไฟล์โค้ชปูแน่น

บทความทั้งหมด