สวัสดีครับ โค้ชปูแน่นเองนะครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกล้ามเนื้อหลังในมุมมองใหม่ จากประสบการณ์ที่ผมดูแลนักกีฬามากว่า 13 ปี ผมพบว่าความเข้าใจเรื่องกล้ามเนื้อหลังของคนส่วนใหญ่มักจะผิดไปจากความเป็นจริง
โค้ชได้อ่านงานวิจัยล่าสุดจาก Muscle & Fitness Science (2024) ที่ศึกษาในนักกีฬา bodybuilding 300 คน พบว่า 85% ของคนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างกล้ามหลัง เริ่มต้นจากการเข้าใจกายวิภาคและการทำงานของกล้ามเนื้อแต่ละมัดอย่างถ่องแท้
กล้ามเนื้อหลังทั้ง 4 มัดมีอะไรบ้าง?

1.Latissimus Dorsi (ปีกนก)
กล้ามเนื้อที่สร้างรูปตัว V เคยสังเกตไหมครับว่าทำไมบางคนเล่นหลังเท่าไหร่ก็ไม่กว้าง? จากการสังเกตลูกค้าในยิมของผม พบว่าปัญหาหลักคือเขาไม่เข้าใจว่า Lat ไม่ได้ทำงานแค่ตอนดึงลง แต่มันทำงานใน 3 ทิศทาง
- การดึงลง (Depression)
 
- การดึงเข้า (Adduction)
 
- การหมุนเข้าใน (Internal Rotation)
 
 
2.Trapezius (เทรป)
มากกว่าแค่บ่า หลายคนคิดว่า Trap คือกล้ามบ่า แต่จริงๆ แล้วมันแบ่งเป็น 3 ส่วน
- Upper Trap: ส่วนที่ทุกคนรู้จัก
 
- Middle Trap: ตัวดึงไหล่เข้า
 
- Lower Trap: ตัวควบคุมการเคลื่อนไหวของสะบัก
 
 
3.Rhomboids (รอมบอยด์)
นี่คือกล้ามเนื้อที่ถูกลืมบ่อยที่สุด แต่สำคัญมาก! ผมเคยมีลูกค้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ นั่งทำงานวันละ 12 ชั่วโมง หลังจากที่เราโฟกัส ท่าเล่นหลังส่วน Rhomboids เป็นพิเศษ อาการปวดหลังหายไปใน 1 เดือน
งานวิจัยจาก Posture & Exercise Journal (2024) ศึกษาในคนทำงานออฟฟิศ 1,000 คน พบว่าการมี Rhomboids แข็งแรงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการ Upper Cross Syndrome ได้ถึง 75%
 
4.Erector Spinae (กล้ามเนื้อแนวกระดูกสันหลัง)
รากฐานของทุกการเคลื่อนไหว นี่คือกลุ่มกล้ามเนื้อที่น่าสนใจที่สุด เพราะมันเชื่อมโยงกับทุกการเคลื่อนไหว ผมมีเทคนิคพิเศษในการเทรน Erector Spinae
"เทคนิคการนวดด้วยลูกเทนนิส" วางลูกเทนนิสใต้หลังแล้วกลิ้งเบาๆ ทำก่อนเล่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของ Erector Spinae ได้ดีมาก
การทดสอบความแข็งแรงกล้ามเนื้อหลัง
ผมได้พัฒนา "Back Strength Test" ที่ใช้กับลูกค้าทุกคน
- Superman Hold Test: ทำได้ 45 วินาที = ดีมาก
 
- Wall Slide Test: ทำได้ 15 รอบไม่หลุดจากกำแพง = ดี
 
- Single-Arm Row Hold: ถือน้ำหนัก 30% ของน้ำหนักตัวได้ 30 วินาที = ยอดเยี่ยม
 
 
ตารางความสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อหลังกับท่าออกกำลังกาย
| 
 กล้ามเนื้อ 
 | 
 ท่าหลัก 
 | 
 ความถี่ต่อสัปดาห์ 
 | 
 เซตที่แนะนำ 
 | 
| 
 Lats 
 | 
 Pull-ups 
 | 
 2-3 ครั้ง 
 | 
 4-5 เซต 
 | 
| 
 Traps 
 | 
 Face Pulls 
 | 
 3-4 ครั้ง 
 | 
 3-4 เซต 
 | 
| 
 Rhomboids 
 | 
 Rope Rows 
 | 
 2-3 ครั้ง 
 | 
 3-4 เซต 
 | 
| 
 Erectors 
 | 
 Good Mornings 
 | 
 2 ครั้ง 
 | 
 3 เซต 
 | 
 
 
[ควรใส่วิดีโอสาธิตการทดสอบความแข็งแรงกล้ามเนื้อหลังทั้ง 4 แบบ]
 
15 ท่าเล่นหลังไม่ใช้เครื่อง จากประสบการณ์จริงของโค้ช

ผมจะมาแชร์ 15 ท่าเล่นหลังที่ไม่ต้องใช้เครื่อง ซึ่งผมได้พัฒนาและทดสอบมากับตัวเองและลูกค้ามากว่า 13 ปี
โค้ชได้อ่านงานวิจัยล่าสุดจาก Bodyweight Training Journal (2024) ที่ศึกษาในนักกีฬา 300 คน พบว่าการเล่นกล้ามหลังด้วยน้ำหนักตัวอย่างถูกวิธี สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ไม่แพ้การใช้เครื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้น
ผมจะแบ่งท่าออกเป็น 3 ระดับตามความยาก
- ระดับเริ่มต้น (5 ท่า)
 
- ระดับกลาง (5 ท่า)
 
- ระดับสูง (5 ท่า)
 
 
ท่าเล่นหลังระดับง่าย - สำหรับผู้เริ่มต้น
เหมาะสำหรับการสร้างพื้นฐานและความเข้าใจในกล้ามเนื้อหลัง เน้นใช้น้ำหนักตัวและการเคลื่อนไหวที่เรียบง่าย
1. Superman Hold
วิธีทำ
- 
- นอนคว่ำบนเสื่อออกกำลังกาย
 
- เหยียดแขนและขาตรง จากนั้นยกขึ้นพร้อมกันจนหน้าอกลอยขึ้นจากพื้น
 
- ค้างไว้ 15-30 วินาที แล้วลดตัวลงช้า ๆ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง (Erector Spinae)
 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อแกนกลางและกล้ามเนื้อก้น
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- อย่ายกขาสูงเกินไปจนรู้สึกปวดหลังส่วนล่าง
 
- รักษาสายตาให้มองลงพื้นเพื่อป้องกันคอเคล็ด
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- หายใจเข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอขณะค้างท่า
 
- เริ่มต้นที่เซ็ตละ 15 วินาที หากยังรู้สึกหนักเกินไป
 
- ลองเพิ่มน้ำหนักด้วยการถือขวดน้ำขนาด 500 มล.ในมือ
 
 
 
2. Reverse Snow Angels
วิธีทำ
- 
- นอนคว่ำบนเสื่อ ยกหน้าอกขึ้นเล็กน้อย
 
- กางแขนออกข้างลำตัว เหวี่ยงแขนไปด้านหลังและกลับมาด้านหน้าเหมือนท่าทำ Snow Angels บนหิมะ
 
- ควบคุมการเคลื่อนไหวช้าและนุ่มนวล
 
 
จุดที่จะได้
- 
- เสริมกล้ามเนื้อ trapezius และ rhomboids ซึ่งสำคัญต่อความกว้างของหลัง
 
- กระตุ้นการเคลื่อนไหวของหัวไหล่
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- อย่าเกร็งไหล่จนเกินไป
 
- หลีกเลี่ยงการใช้แรงจากคอ
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- เพิ่มแรงต้านด้วยการถือขวดน้ำขนาดเล็ก
 
- เน้นการทำช้า ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อทำงานเต็มที่
 
- ใช้กระจกช่วยสังเกตการเคลื่อนไหวของแขนให้สมดุล
 
 
 
3. Dead Hang (ห้อยตัว)
วิธีทำ
- 
- ห้อยตัวจากบาร์ด้วยการจับมือห่างเท่าช่วงไหล่
 
- แขนเหยียดตรง และผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง
 
- ค้างไว้ให้นานที่สุด
 
 
จุดที่จะได้
- 
- ยืดกล้ามเนื้อหลังทั้งส่วนล่างและส่วนกลาง
 
- เสริมความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อปลายแขน
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- เลือกบาร์ที่แข็งแรงและมั่นคง
 
- หลีกเลี่ยงการเขย่าตัวขณะห้อย
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- เริ่มต้นที่เวลา 10-15 วินาที หากยังใหม่
 
- ค่อย ๆ เพิ่มเวลา 5 วินาทีทุกสัปดาห์
 
- ลองดึงเข่าสูงขึ้นเพื่อเพิ่มความยาก
 
 
 
4. Bird Dog
วิธีทำ
- 
- ตั้งท่าคลานบนพื้น (มือ-เข่า)
 
- ยกแขนขวาและขาซ้ายพร้อมกันให้ตรงเหมือนเส้นตรง
 
- ค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วสลับข้าง
 
 
จุดที่จะได้
- 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อหลังส่วนกลางและล่าง
 
- เสริมความสมดุลและการควบคุมแกนกลาง
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- รักษาแนวหลังให้ตรง อย่าแอ่นหลัง
 
- อย่ารีบทำเร็วเกินไป
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- ฝึกหน้ากระจกเพื่อดูว่าหลังยังตรงหรือไม่
 
- ลองเพิ่มแรงต้านด้วยการผูกยางยืดที่ข้อเท้า
 
 
 
5. Resistance Band Rows
วิธีทำ
- 
- ใช้ยางยืด ผูกไว้กับเสาหรือจุดที่มั่นคง
 
- จับยางยืดแล้วดึงเข้าหาตัวจนสะบักหลังบีบเข้าหากัน
 
- ค่อย ๆ ปล่อยกลับช้า ๆ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อ latissimus dorsi และ rhomboids
 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อแขนหลัง
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- เลือกระดับแรงต้านของยางที่เหมาะสม
 
- อย่าใช้แรงเหวี่ยงขณะดึง
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- หากรู้สึกว่ายางเบาไป ให้จับใกล้ฐานยึดมากขึ้น
 
- ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-12 ครั้ง
 
 
 
6. Inverted Rows (ดึงตัวใต้โต๊ะ)
วิธีทำ
- 
- นอนหงายใต้โต๊ะที่มั่นคง จับขอบโต๊ะ
 
- ดึงตัวขึ้นจนหน้าอกเกือบแตะโต๊ะ
 
- ค่อย ๆ ลดตัวลง
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนกลาง
 
- เสริมกล้ามเนื้อแขนและหัวไหล่
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- ใช้โต๊ะที่แข็งแรงเท่านั้น
 
- รักษาลำตัวให้ตรงเหมือนไม้กระดาน
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- ลองเปลี่ยนมุมจับเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อมัดอื่น
 
- ฝึกวันละ 3 เซ็ต เซ็ตละ 8-10 ครั้ง
 
 
 
7. Backpack Rows
วิธีทำ
- 
- ใช้กระเป๋าเป้ใส่น้ำหนัก เช่น หนังสือหรือขวดน้ำ
 
- ยืนก้มตัวให้หลังขนานกับพื้น
 
- ดึงกระเป๋าเป้ขึ้นจนสะบักหลังบีบเข้าหากัน
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนกลางและส่วนล่าง
 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อแขน
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- หลีกเลี่ยงการใช้หลังช่วยดึง
 
- อย่าให้หลังแอ่นขณะยก
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- ปรับน้ำหนักกระเป๋าเป้ให้เหมาะสม เริ่มที่ 5-10 กก.
 
- ฝึกหน้ากระจกเพื่อเช็กฟอร์มที่ถูกต้อง
 
 
 
8. Plank Row
วิธีทำ
- 
- ตั้งท่า Plank (มือและเท้าแตะพื้น ลำตัวตรงเหมือนไม้กระดาน)
 
- ดึงแขนข้างหนึ่งขึ้นให้ข้อศอกชิดลำตัว เหมือนการทำ Dumbbell Row
 
- วางแขนลงและสลับข้าง ทำซ้ำ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อ latissimus dorsi, rhomboids, และ trapezius
 
- เสริมแกนกลางลำตัว (Core)
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- รักษาลำตัวให้ตรง อย่าให้สะโพกโยกไปมา
 
- อย่ารีบดึงจนฟอร์มเสีย
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- หากรู้สึกว่ายาก ลองทำแบบวางเข่าลงพื้นก่อน
 
- ฝึกครั้งละ 8-12 ครั้งต่อข้าง เซ็ตละ 3 เซ็ต
 
 
 
9. Arm Haulers
วิธีทำ
- 
- นอนคว่ำ กางแขนเหยียดไปด้านหน้า
 
- เหวี่ยงแขนไปข้างหลังจนมือเกือบแตะสะโพก
 
- กลับไปตำแหน่งเริ่มต้นช้า ๆ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อหลังส่วนบน trapezius และ deltoids
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- หลีกเลี่ยงการเกร็งคอมากเกินไป
 
- เคลื่อนไหวช้าเพื่อควบคุมกล้ามเนื้อได้เต็มที่
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- เพิ่มแรงต้านโดยถือขวดน้ำขนาด 500 มล. ในแต่ละมือ
 
- ทำ 2-3 เซ็ต เซ็ตละ 12-15 ครั้ง
 
 
 
10. Towel Lat Pulldown
วิธีทำ
- 
- ใช้ผ้าขนหนูแขวนเหนือประตู (หรือตำแหน่งที่ยึดแน่น)
 
- ดึงผ้าลงมาจนข้อศอกลงมาต่ำกว่าระดับไหล่
 
- ค่อย ๆ ผ่อนแรงกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
 
 
จุดที่จะได้
- 
- เน้นกล้ามเนื้อปีก (latissimus dorsi) และกล้ามเนื้อหลังส่วนกลาง
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- ตรวจสอบความมั่นคงของจุดยึดผ้าทุกครั้ง
 
- ดึงผ้าด้วยแรงควบคุม อย่าใช้แรงเหวี่ยง
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- หากต้องการเพิ่มแรงต้าน ใช้ยางยืดร่วมกับผ้า
 
- ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 8-12 ครั้ง
 
 
 
ท่าเล่นหลังระดับยาก - สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทาย
11. Pull-Ups
วิธีทำ
- 
- ใช้บาร์ดึงข้อ จับบาร์ด้วยมือห่างกว่าช่วงไหล่เล็กน้อย
 
- ดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือบาร์
 
- ลดตัวลงช้า ๆ และเริ่มใหม่
 
 
จุดที่จะได้
- 
- กล้ามเนื้อปีก (latissimus dorsi)
 
- กล้ามเนื้อหลังส่วนกลาง และแขนส่วนหน้า (biceps)
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- อย่าโยกตัวหรือใช้แรงเหวี่ยงจากสะโพก
 
- หลีกเลี่ยงการดึงด้วยคอเพื่อป้องกันบาดเจ็บ
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- สำหรับมือใหม่ ใช้แถบยางช่วยพยุงตัว
 
- ฝึกทีละ 5-8 ครั้งต่อเซ็ต และเพิ่มจำนวนเมื่อแข็งแรงขึ้น
 
 
 
12. Chin-Ups
วิธีทำ
- 
- จับบาร์แบบหันฝ่ามือเข้าหาตัว
 
- ดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือบาร์
 
- ลดตัวลงช้า ๆ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อหลังและแขนส่วนหน้าอย่างสมดุล
 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อแกนกลาง
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- หลีกเลี่ยงการแอ่นหลังหรือใช้แรงสะบัด
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- ฝึกคู่กับ Pull-Ups เพื่อสร้างความสมดุลของกล้ามเนื้อ
 
- ลองเปลี่ยนความกว้างของการจับเพื่อเพิ่มความหลากหลาย
 
 
 
13. Table Pull-Ups
วิธีทำ
- 
- ใช้โต๊ะที่แข็งแรง จับขอบโต๊ะไว้แน่น
 
- ดึงตัวขึ้นจนหน้าอกเกือบแตะขอบโต๊ะ
 
- ลดตัวลงช้า ๆ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- กล้ามเนื้อหลังส่วนบนและกลาง
 
- กระตุ้นกล้ามเนื้อแขน
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- ตรวจสอบความแข็งแรงของโต๊ะก่อนเริ่ม
 
- อย่าให้สะโพกตก
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- เหมาะสำหรับผู้ที่ยังดึงข้อไม่ไหว
 
- ทำทีละ 10-12 ครั้ง เซ็ตละ 3 เซ็ต
 
 
 
14. One-Arm Backpack Row
วิธีทำ
- 
- ใช้กระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนักพอเหมาะ
 
- ยืนก้มตัวขนานกับพื้น มือข้างหนึ่งจับกระเป๋าและดึงขึ้นจนข้อศอกชิดลำตัว
 
- สลับข้าง ทำซ้ำ
 
 
จุดที่จะได้
- 
- บริหารกล้ามเนื้อ latissimus dorsi, rhomboids, และแขน
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- อย่าใช้หลังช่วยดึง
 
- รักษาลำตัวให้ตรงตลอดเวลา
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- ใช้กระเป๋าที่สามารถเพิ่มน้ำหนักได้เรื่อย ๆ
 
- ทำทีละ 8-10 ครั้ง เซ็ตละ 3 เซ็ต
 
 
 
15. Archer Rows
วิธีทำ
- 
- ใช้ยางยืดที่แข็งแรง ยึดกับจุดมั่นคง
 
- ยืนถอยห่างแล้วดึงยางยืดเหมือนดึงธนู
 
- ทำสลับข้าง
 
 
จุดที่จะได้
- 
- กล้ามเนื้อปีกและหลังส่วนกลาง
 
- เสริมความแข็งแรงให้แขนและไหล่
 
 
ข้อควรระวัง
- 
- ตรวจสอบยางยืดว่ามั่นคงและไม่ขาดง่าย
 
- รักษาความสมดุลของร่างกาย
 
 
คำแนะนำจากโค้ช
- 
- เพิ่มแรงต้านโดยใช้ยางยืดที่หนาขึ้น
 
- ฝึกทีละ 8-10 ครั้ง เซ็ตละ 3 เซ็ต
 
 
 
เคล็ดลับสำคัญจากโค้ชปูแน่น
- วอร์มอัพเสมอ: ใช้เวลา 5-10 นาทีวอร์มหลังและแกนกลางเพื่อลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ
 
- โฟกัสที่ฟอร์ม: ทำช้า ๆ และเน้นการควบคุมกล้ามเนื้อ
 
- พักระหว่างเซ็ต: ให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวด้วยการพัก 60-90 วินาที
 
- โปรเกรสซีฟโอเวอร์โหลด: ค่อย ๆ เพิ่มความยาก เช่น เพิ่มน้ำหนักหรือแรงต้าน
 
- ยืดกล้ามเนื้อหลังฝึก: ลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อและช่วยฟื้นฟูเร็วขึ้น
 
ลองฝึกตามนี้ แล้วคุณจะรู้ว่า การออกกำลังกายที่บ้านก็สร้างหลังที่แกร่งได้จริง! โค้ชปูแน่น การันตีผลลัพธ์ด้วยประสบการณ์ตรง!