ถ้าคุณกำลังสงสัยว่า Hyrox คืออะไร? และทำไมคนทั่วโลกถึงเริ่มพูดถึงการแข่งขันนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมขอบอกแบบตรง ๆ ครับว่า Hyrox ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย และไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่ Hyrox คือ “สนามทดสอบร่างกายและใจ” ที่ออกแบบมาเพื่อทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬา สายฟิตเนส หรือแม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถเข้าร่วมได้จริง
Hyrox คือการแข่งขันฟิตเนสระดับสากลที่ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศเยอรมนีในปี 2017 และเติบโตจนกลายเป็นกีฬาที่ขยายไปมากกว่า 25 ประเทศทั่วโลกในเวลาไม่ถึง 10 ปี เพราะรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ท้าทายสุดขีด ด้วยแนวคิดที่ว่า “ใครก็แข่งได้ ขอแค่ใจพร้อมและร่างกายพร้อมลุย”
การแข่งขัน Hyrox จัดขึ้นในสนาม Indoor มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก คุณต้องวิ่งทั้งหมด 8 กิโลเมตร สลับกับทำเวิร์กเอาต์ 8 ฐาน ซึ่งเป็นท่าพื้นฐานที่ทุกคนทำได้จริง เช่น พายเรือ ดึงสาย SkiErg ดันเลื่อน ถือดัมเบล กระโดด และโยนลูกบอลขึ้นกำแพง ท่าทางเหล่านี้ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เมื่อถูกรวมกันในสนามแข่งขัน Hyrox จะกลายเป็น “สนามวัดใจ” ที่ทำให้แม้แต่นักกีฬามืออาชีพยังต้องยอมรับว่าเหนื่อยเกินคาด
สิ่งที่ทำให้ Hyrox แตกต่างจาก CrossFit หรือไตรกีฬา คือไม่มีท่าโอลิมปิก ไม่มีเทคนิคยาก และไม่ต้องใช้ประสบการณ์ขั้นสูง ทุกคนสามารถเริ่มฝึกและลงสนามได้จริงภายในเวลาไม่กี่เดือน ขอแค่มีใจและการเตรียมตัวที่ถูกต้อง
ในสนามแข่ง Hyrox คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์เหมือนนักกีฬาตัวจริง มีสายคาดตัวจับเวลา มีโค้ช มีคนเชียร์ มีเส้นชัย และมีการจับเวลาที่สามารถเปรียบเทียบกับนักกีฬาทั่วโลกได้ทันที Hyrox จึงไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือ “เป้าหมายใหม่” ที่ทำให้คนรักการออกกำลังกายมีเป้าหมายชัดเจน และเปลี่ยนตัวเองให้เก่งขึ้น แข็งแรงขึ้น และรู้จักใจตัวเองมากขึ้นในสนามจริง
และในปี 2025 นี้ Hyrox กำลังจะจัดแข่งขันในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ที่ BITEC บางนา กรุงเทพฯ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่คนไทยทุกคนสามารถลงสนามระดับโลก โดยไม่ต้องบินไปต่างประเทศให้เสียเงินและเวลาอีกต่อไป
สุดท้ายนี้...ถ้าคุณอยากรู้ว่า Hyrox คือสนามแข่งขันจริง หรือแค่คลาสออกกำลังกายทั่วไป? ผมขอบอกเลยว่า Hyrox คือสนามแข่งที่วัดความฟิตของคุณด้วยตัวเลขจริง มีเส้นชัยจริง และมีเพียงคุณเท่านั้น ที่จะพาตัวเองไปถึงเส้นชัยนั้นได้
“การแข่งขันฟิตเนสที่ใคร ๆ ก็ลงแข่งได้จริง โดยไม่ต้องเป็นนักกีฬาอาชีพ”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เราเรียกกันในวันนี้ว่า Hyrox คืออะไร ?
ถ้าคุณกำลังเตรียมตัวสู่สนาม Hyrox ครั้งแรกในไทย หรืออยากฝึกแบบ Hyrox ที่บ้านหรือลานฟิตเนสของตัวเอง ลองเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ฟิตเนสพื้นฐาน เช่น ดัมเบล Sled ลูกบอลยาง หรือ SkiErg ที่ใช้ฝึกได้จริงในท่าแข่ง เราได้รวบรวมอุปกรณ์สำหรับฝึก Hyrox ไว้ให้คุณเลือกแล้วที่นี่ครับ
นั่นทำให้ Hyrox แตกต่างจาก CrossFit ที่มีเทคนิคเฉพาะตัวซับซ้อน และไม่เหมือนกับการแข่งวิ่งมาราธอนที่เน้นแต่คาร์ดิโออย่างเดียว Hyrox คือสนามที่ทดสอบสมรรถภาพร่างกายทั้งระบบในรูปแบบที่ทำซ้ำและวัดผลได้อย่างเป็นมาตรฐาน
ปีแรกของ Hyrox จัดขึ้นในเมือง Hamburg ประเทศเยอรมนี มีผู้เข้าแข่งขันเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียง 2 ปี Hyrox ได้เติบโตแบบก้าวกระโดด ขยายเข้าสู่สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกีฬาฟิตเนสที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลก ณ เวลานี้
ความพิเศษคือ ทุกสนามของ Hyrox ใช้มาตรฐานการแข่งขันเหมือนกัน 100% ตั้งแต่อุปกรณ์ เครื่องออกกำลังกาย เวิร์กเอาต์ จนถึงเส้นชัย คุณแข่งในเยอรมนี หรือแข่งในไทย คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหมือนกันหมด
ในฐานะโค้ช ผมมองว่า Hyrox ไม่ใช่แค่กีฬาใหม่ แต่คือแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนชีวิตคนออกกำลังกายจริง ๆ เพราะเปลี่ยนจากการเข้ายิมไปวัน ๆ ให้กลายเป็นคนที่มีเป้าหมาย มีเส้นชัย และมีสนามให้พิสูจน์ตัวเอง
และทั้งหมดนี้เกิดจากแนวคิดง่าย ๆ ของคนสองคนในเยอรมนี ที่ตั้งใจสร้างสนามแข่งขันที่ไม่จำกัดคนฟิต แต่เปิดให้คนธรรมดาทั่วโลกได้ลองท้าทายตัวเอง
Hyrox คือผลลัพธ์ของความคิดที่ว่า…
“ใครก็เป็นนักกีฬาได้ ขอแค่กล้าก้าวเข้าสนามจริง”
โดยขยายเนื้อหาให้ลึกและละเอียดขึ้น 10 เท่า พร้อมเล่าเหมือนโค้ชแนะนำและสอดแทรก Focus Keyword ธรรมชาติ อ่านลื่น ช่วย SEO
หลังจากรู้ว่า Hyrox คือ อะไร และใครเป็นผู้ก่อตั้งกันไปแล้ว คำถามถัดมาที่หลายคนสงสัยคือ การแข่งขัน Hyrox ในสนามจริงมีรูปแบบยังไง?
เพราะหลายคนอาจเคยคิดว่าคล้ายการวิ่ง 10K หรือเป็นแค่คลาสฟิตเนสในยิม แต่ในฐานะโค้ช ผมบอกได้เต็มปากว่า Hyrox แตกต่างกว่านั้นมาก และนั่นทำให้ Hyrox กลายเป็น “สนามแข่งที่วัดทั้งแรงกายและใจจริง ๆ”
Hyrox คือการแข่งขันที่ออกแบบมาให้เรียบง่ายที่สุด แต่เหนื่อยที่สุด เพราะตลอดการแข่งขัน คุณต้อง…
“วิ่ง 1 กิโลเมตร สลับกับทำเวิร์กเอาต์ 1 ฐาน รวมทั้งหมด 8 รอบ”
รูปแบบการแข่งขันเป็นดังนี้:
นั่นหมายความว่า ในสนามจริง คุณจะต้อง…
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ Hyrox ไม่มีช่วงให้หยุดพักเหมือนเข้ายิม ทุกคนในสนามต้องเดินหน้าทำต่อไปเรื่อย ๆ ใครที่ช้าก็คือช้า ใครที่ล้า ยืนพักนานก็มีเวลานานขึ้น ดังนั้น Hyrox วัดกันทั้งความอึด พลังร่างกาย และใจล้วน ๆ
หลายคนอาจเคยวิ่ง Half Marathon หรือเคยแข่งไตรกีฬา แต่พอมาลง Hyrox ทุกคนพูดเหมือนกันว่า…
“Hyrox คือการแข่งขันที่โหดกว่าที่คิด เหนื่อยกว่ามาราธอน แต่สนุกและจบได้ง่ายกว่าไตรกีฬา”
เพราะอะไร? เพราะคุณต้องทำงานทั้งระบบคาร์ดิโอ (วิ่ง) และระบบกล้ามเนื้อ (เวิร์กเอาต์ 8 ฐาน) พร้อมกันแบบสลับไปสลับมาตลอดการแข่งขัน ไม่มีช่วงให้พักเต็มที่
Hyrox จึงเป็นการแข่งขันที่ใช้พลังทั้งร่างกายจริง ๆ
ในสนาม Hyrox การวิ่งแต่ละช่วงคือระยะ 1 กิโลเมตร ซึ่งฟังดูเหมือนระยะสั้นใช่ไหมครับ? แต่จริง ๆ แล้วในแต่ละช่วงนั้น คุณจะเหนื่อยมาก เพราะเพิ่งผ่านเวิร์กเอาต์หนักมาก่อนหน้า และการวิ่งนั้นไม่ใช่การออกตัวเหมือนวิ่งเล่น แต่คือการพาตัวเองไปให้ถึงฐานถัดไป
ลองจินตนาการตามนะครับ…
คุณวิ่งครบ 1 กิโลเมตร หลังจากนั้นไปดึง SkiErg จนหมดแรง
จากนั้นต้องวิ่งต่ออีก 1 กิโลเมตร
ไปดันเลื่อนอีก
วิ่งต่ออีก 1 กิโลเมตร
ทำ Burpee Broad Jump ต่อ…
และวนแบบนี้อีกหลายครั้ง
นี่แหละคือสาเหตุที่แม้แค่ระยะ 1 กิโลเมตรใน Hyrox ยังทำให้หลายคนเดิน หรือบางคนถอดใจในสนามจริง เพราะมันคือ “การวิ่งที่ต่อเนื่องกับความเหนื่อย” ตลอดเวลา
ตลอดการแข่งขัน Hyrox คุณต้องผ่านฐานเวิร์กเอาต์ที่ออกแบบมาอย่างดีถึง 8 ฐาน แต่ละฐานมีจุดประสงค์เฉพาะ ทั้งฝึกกำลังกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงระบบแกนกลาง และระบบหายใจ
เวิร์กเอาต์ทุกฐานจะมีมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก เช่น:
อุปกรณ์ที่ใช้ทุกสนามแข่งเป็นมาตรฐานสากล โดยเฉพาะเครื่องจาก Concept 2 ที่ Hyrox บังคับใช้ในทุกสนาม
ในฐานะโค้ช ผมขอสรุปง่าย ๆ ว่า…
Hyrox คือสนามที่สอนให้คุณเข้าใจร่างกายตัวเองจริง ๆ เพราะไม่ใช่แค่แรง แต่ใจสำคัญไม่แพ้กัน
ในการแข่งขันจริง คุณจะพบว่า…
ใน Hyrox การยืนพักคือนาทีที่เวลาของคุณเดินต่อไป
การนั่งพักคือนาทีที่อันดับของคุณตกลงไปเรื่อย ๆ
เพราะการแข่งขันนี้ทำให้คุณเข้าใจอย่างแท้จริงว่า…
และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Hyrox คือ การแข่งขันที่ใคร ๆ ก็ลงได้ แต่มีไม่กี่คนที่ไปถึงเส้นชัยอย่างภาคภูมิใจ
หลังจากคุณเข้าใจแล้วว่า Hyrox คือ การแข่งขันที่ต้องวิ่งสลับกับเวิร์กเอาต์ 8 ฐาน มาถึงจุดสำคัญที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนลงสนามจริงครับ เพราะในแต่ละฐานนั้น มีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ทั้งความโหด เทคนิคการใช้แรง และข้อผิดพลาดที่ทำให้หลายคนพลาดเวลาไปอย่างน่าเสียดาย
วันนี้ในฐานะโค้ช ผมจะพาคุณมาดูทีละฐานว่า Hyrox ใช้ท่าอะไร และแต่ละฐานคุณควรบริหารแรงตัวเองอย่างไร
การแข่งขัน Hyrox ทุกสนามจะเริ่มต้นด้วยฐานนี้เสมอ โดยใช้อุปกรณ์มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกคือ Concept 2 SkiErg ซึ่งเป็นเครื่องดึงสายเพื่อจำลองการเล่นสกีแบบ Cross-Country จุดเด่นคือไม่ว่าคุณจะอยู่สนามไหนในโลกนี้ เครื่องที่คุณใช้จะเหมือนกัน 100% เพื่อควบคุมมาตรฐานการวัดผล
หลายคนมองว่า SkiErg เป็นฐานง่าย ๆ แต่ผิดครับ ผมเห็นนักกีฬาหมดแรงในฐานนี้เพราะคิดว่าเป็นช่วงวอร์ม เลยใส่แรงเต็มตั้งแต่เริ่ม สุดท้ายแรงหมดตั้งแต่ฐานแรก
เทคนิคของโค้ชคือ อย่าเร่งแต่แรก ตั้งจังหวะดึงสายให้สม่ำเสมอ ใช้พลังจากแกนกลางและหลังเป็นหลัก มือควรจับจังหวะดึงให้เป็นจังหวะการหายใจ และควบคุมหัวใจให้อยู่ในโซนที่ตัวเองไหว ไม่ต้องเร่งทำเวลาแต่แรก เพราะการแข่ง Hyrox คือการแข่งระยะยาว
เมื่อวิ่งจบรอบแรกและผ่าน SkiErg มาแล้ว คุณจะเจอกับฐาน Sled Push ที่โหดที่สุดสำหรับหลายคน ฐานนี้จะให้คุณดันเลื่อนน้ำหนักจริง ๆ ระยะ 50 เมตร น้ำหนักที่ใช้จะแตกต่างตามรุ่น (Open หรือ Pro)
จากประสบการณ์จริงในฐานะโค้ช ผมบอกได้เลยว่าคนส่วนใหญ่ใช้แรงแขนดันเลื่อน ซึ่งเป็นวิธีผิด เพราะควรโน้มตัวต่ำ ใช้แรงจากขาและสะโพกดันออกไปเป็นหลัก รักษาแนวลำตัวให้มั่นคง และควบคุมลมหายใจให้นิ่ง ดันช้าแต่ต่อเนื่อง จะช่วยให้จบฐานนี้ได้โดยไม่หมดแรงก่อนเวลา
จากดันเลื่อน คุณต้องเปลี่ยนมาลากเลื่อนในระยะ 50 เมตรแทน แต่ไม่ใช่ลากง่าย ๆ นะครับ เพราะคุณต้องถอยหลังและลากเชือกที่ผูกติดกับเลื่อนหนัก ลากไปเรื่อย ๆ จนครบระยะ
นักกีฬามือใหม่มักดึงผิดจังหวะ ลากเร็วเกินไปแล้วหมดแรงกลางทาง วิธีที่ถูกคือให้ถอยทีละก้าวอย่างมั่นคง ใช้กล้ามเนื้อหลังและแขนดึงสลับกันไป พยายามไม่เร่งถอยหลังทีละก้าว ใช้กำลังแบบสม่ำเสมอ เพราะถ้าหมดแรงกลางทาง คุณจะเจอจุดพักกลางฐานโดยไม่รู้ตัว
นี่แหละครับ ฐานที่หลายคนเรียกกันว่า “ด่านหายนะ” เพราะคุณต้องทำ Burpee สลับกับกระโดดไปข้างหน้า ต่อเนื่องจนครบระยะ 80 เมตร หลายคนถอดใจตรงนี้ เพราะมันไม่ใช่แค่กล้ามเนื้อ แต่เป็นด่านวัดใจ
สิ่งที่โค้ชอยากแนะนำคือ กระโดดสั้น ๆ แต่ถี่จะคุมพลังได้มากกว่า กระโดดไกลแล้วหมดแรงเร็วแน่นอน ให้โฟกัสที่การรักษาจังหวะมากกว่าการรีบผ่านด่านนี้
ถ้าคุณผ่านมาได้ถึงตรงนี้ คุณจะเริ่มเหนื่อยสะสมแล้ว แต่ยังไม่จบ เพราะฐานถัดไปคือเครื่องพายเรือ Concept 2 RowErg ระยะ 1,000 เมตร เครื่องนี้เช่นเดียวกับ SkiErg คืออุปกรณ์มาตรฐาน Hyrox ที่ใช้แข่งทุกสนามทั่วโลก
คนที่หมดแรงมักดึงเร็วเกินไปในช่วงแรก ทั้งที่การพายเรือให้มีประสิทธิภาพ ต้องออกแรงจากขาเป็นหลัก ตามด้วยแขนและหลัง ที่สำคัญคือควรตั้งค่า Drag Factor ให้เหมาะกับร่างกายของตัวเองบนหน้าจอ PM5 ของ Concept 2 ก่อนเริ่มทุกครั้ง
ถือของหนักเดินระยะ 200 เมตร ฟังดูเหมือนง่าย แต่เชื่อไหมครับว่านี่คือด่านที่ทำให้นักกีฬาเยอะมากถึงกับวางของลงกลางทาง เพราะกล้ามเนื้อปลายแขนล้าจนจับไม่อยู่
ในฐานะโค้ช ผมแนะนำให้จับอุปกรณ์ให้แน่น แต่ไม่เกร็งข้อมือ เดินด้วยจังหวะสม่ำเสมอ หลังตรง รักษาแกนกลางลำตัวให้มั่นคง จะช่วยลดอาการล้าของกล้ามเนื้อแขนได้เยอะมาก และผ่านฐานนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
ในช่วงที่กล้ามเนื้อขาเริ่มหมดแรง คุณจะต้องแบกกระสอบทรายวางบนไหล่ และเดินย่อตัวไปข้างหน้า 100 เมตร การก้าวสั้น ๆ แต่มั่นคงจะช่วยให้ประหยัดพลังได้มากกว่า พยายามอย่าก้าวยาวหรือย่อลึกเกินไปในแต่ละก้าว เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าแขกล้าเร็วกว่าที่ควร
เมื่อมาถึงฐานสุดท้ายแล้ว คุณต้องเจอกับ Wall Balls โยนบอลหนักขึ้นกำแพงตามจำนวนครั้งที่กำหนด ฐานนี้เรียกว่าเป็นฐานปิดเกม แต่โหดที่สุด เพราะคุณต้องออกแรงระเบิดจากขาและแขนพร้อม ๆ กัน ในช่วงที่หัวใจเต้นสูงสุด และกล้ามเนื้อหมดแรงที่สุด
เทคนิคคือโยนลูกบอลให้แค่พ้นเป้า ไม่จำเป็นต้องโยนสูงเกินไป และจงควบคุมลมหายใจให้สม่ำเสมอระหว่างโยน จะช่วยให้ผ่านด่านสุดท้ายได้ก่อนเข้าเส้นชัย
แต่ละฐานของ Hyrox ออกแบบมาเพื่อทดสอบความแข็งแรงของร่างกายอย่างครบทุกมิติ ทั้งกล้ามเนื้อส่วนบน ส่วนล่าง แกนกลาง และระบบหายใจ การบริหารพลังในแต่ละฐานจึงสำคัญที่สุด เพราะคุณจะไม่มีวันรู้ว่าตัวเองหมดแรงเมื่อไหร่ จนกว่าจะเจอกับมันจริง ๆ ในสนาม
นี่แหละครับ คือเหตุผลที่ 8 ฐานของ Hyrox คือสนามวัดใจตัวจริง ที่ใครก็ทำได้ แต่ไม่ใช่ใครก็จบครบทุกฐานได้ง่าย ๆ
ในการแข่งขัน Hyrox คือ การแข่งขันที่ใครก็เข้าร่วมได้จริงครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬามือโปร หรือคนธรรมดาที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย ทุกคนสามารถเลือกลงแข่งขันในประเภทและรุ่นที่เหมาะกับตัวเองได้ทันที เพราะ Hyrox ออกแบบมาให้รองรับนักกีฬาทุกระดับความฟิต ด้วยการแบ่งประเภทการแข่งขันไว้อย่างชัดเจน
ในฐานะโค้ช ผมขอบอกว่า นี่คือข้อดีสำคัญที่ทำให้ Hyrox แตกต่างจากกีฬาอื่น ๆ ครับ เพราะการแบ่งรุ่นการแข่งขัน ทำให้คนทุกเพศ ทุกวัย มีโอกาสเข้าถึงสนามนี้ได้ง่ายขึ้น และรู้สึกมั่นใจในการลงแข่งขันมากกว่าเดิม
สำหรับผู้ที่เพิ่งรู้จักว่า Hyrox คืออะไร และอยากลงสนามจริง รุ่นนี้คือคำตอบครับ Open Division คือรุ่นที่ออกแบบมาให้เหมาะกับ “คนทั่วไป” ที่มีร่างกายแข็งแรงระดับพื้นฐาน ใช้เวิร์กเอาต์มาตรฐานที่ไม่หนักเกินไป เช่น น้ำหนัก Sled Push และ Sled Pull จะเบากว่ารุ่น Pro
ในรุ่น Open คุณจะได้สัมผัสรูปแบบการแข่งขัน Hyrox แบบเต็มระบบครบ 8 ฐาน และวิ่ง 8 กิโลเมตร เหมือนรุ่นอื่น ๆ ทุกอย่าง แต่สเปกของอุปกรณ์และน้ำหนักเวิร์กเอาต์จะลดลง ช่วยให้คนที่เพิ่งเริ่มฝึกสามารถจบการแข่งขันได้จริง
ลูกค้าหลายคนของผมที่ไม่เคยลงแข่งอะไรในชีวิต ก็มักเริ่มต้นจาก Open Division นี้แหละครับ และมันช่วยเปลี่ยนพวกเขาจากคนธรรมดาให้กลายเป็น “นักกีฬาคนหนึ่ง” ได้จริง ๆ
ถ้าคุณเป็นสายเวท หรือคนที่มีพื้นฐานฟิตเนสอยู่แล้ว รุ่นนี้คือสนามทดสอบจริงของคุณครับ ใน Pro Division น้ำหนักของอุปกรณ์ในแต่ละฐานจะเพิ่มขึ้น เช่น Sled Push หนักกว่ารุ่น Open เกือบเท่าตัว Wall Balls ใช้ลูกบอลหนักกว่า และการพายเรือ หรือดึง SkiErg ก็จะมีการตั้งค่าความต้านทานให้สูงขึ้นตามมาตรฐานระดับโลก
ในรุ่นนี้ คุณจะได้เจอผู้เข้าแข่งขันที่ฟิตจริงจังมากกว่า เป็นเวทีสำหรับคนที่อยากท้าทายตัวเองในระดับถัดไป หากคุณจบรุ่น Open แล้ว และรู้สึกว่ายังไม่ใช่ขีดจำกัดของตัวเอง ผมแนะนำให้ลองลงรุ่น Pro รับรองว่าคุณจะได้เห็นว่า Hyrox คือสนามที่ “โหดกว่าที่คิด” แน่นอน
สำหรับใครที่อยากแชร์ความเหนื่อย แชร์พลังใจกับเพื่อน หรือแฟน Hyrox มีรุ่นที่เรียกว่า Doubles Division คือ “รุ่นแข่งขันเป็นคู่” ครับ รูปแบบจะเหมือนรุ่นเดี่ยวทุกอย่าง แต่คุณสามารถสลับกันทำเวิร์กเอาต์แต่ละฐานกับคู่ของคุณได้ ช่วยกันแบ่งเบาภาระกันไป
หลายคู่ที่ผมเคยเห็นในสนาม บางคู่แบ่งงานชัดเจน เช่น คนหนึ่งทำ SkiErg อีกคนทำ Sled Push แล้วสลับกันวิ่ง หรือบางคู่ช่วยกันทำทุกฐานครึ่ง ๆ แบบทีมเวิร์กจริง ๆ ข้อดีของรุ่นนี้คือช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจในตัวเองสามารถลงแข่งได้ง่ายขึ้น เพราะรู้ว่ายังมีอีกคนช่วยอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา
Hyrox ไม่ได้มีแค่รุ่นเดี่ยวและคู่เท่านั้นนะครับ แต่ยังมี Relay Division คือ “รุ่นทีม 4 คน” ด้วยครับ รุ่นนี้เป็นเหมือนงานแข่งสนุก ๆ ที่เน้นความสามัคคีและความมันส์ ทีมหนึ่งจะมี 4 คน แบ่งกันทำเวิร์กเอาต์และวิ่งคนละส่วนจนจบการแข่งขัน
สำหรับผม รุ่น Relay คือรุ่นที่เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่อยากเปิดประสบการณ์ Hyrox แบบเบา ๆ แต่ก็ยังได้สัมผัสสนามจริง โดยไม่ต้องลงแรงคนเดียวทั้งหมด เหมาะกับการรวมแก๊งเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานมาลองแข่งด้วยกัน
สุดท้ายคือรุ่นที่หลายคนใฝ่ฝันครับ Elite 15 คือรุ่นของนักกีฬามืออาชีพตัวจริง เป็นรุ่นที่คัดเอา 15 คนแรกของโลกในแต่ละฤดูกาลมาดวลกัน เพื่อชิงแชมป์โลกอย่างแท้จริง
ในรุ่นนี้ เวิร์กเอาต์ทุกฐานและระยะวิ่งจะเหมือนรุ่น Pro ทุกอย่าง แต่ระดับความเข้มข้นและความเร็วของนักกีฬาแต่ละคน คือระดับ “สุดทาง” ครับ ผมเคยดูการแข่งขัน Elite 15 สด ๆ แล้วบอกเลยว่า ความเร็วของพวกเขาเหมือนวิ่งแข่ง 100 เมตร แต่ทำต่อเนื่องเป็นชั่วโมง
หากคุณตั้งใจจริง การก้าวเข้าสู่ Elite 15 คือเป้าหมายสูงสุดที่ท้าทาย และ Hyrox คือสนามเดียวในโลกที่เปิดโอกาสให้คุณไปถึงตรงนั้นได้จริง
ในสายตาโค้ช ผมมองว่า Hyrox เป็นกีฬาที่ใส่ใจคนทุกกลุ่มมาก เพราะการแบ่งรุ่นแบบนี้ ทำให้ไม่ว่าใครก็มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันในระดับที่เหมาะสมกับตัวเอง
คุณเป็นสายวิ่งใช่ไหม? คุณก็เลือก Doubles ได้
คุณเป็นสายเวท? มาลองรุ่น Pro ได้เลย
คุณเพิ่งเริ่มต้น? เริ่มจาก Open ไปก่อน
อยากเล่นเป็นทีม? ลง Relay
หรือฟิตจริงจัง? สู่เส้นทาง Elite 15
ทั้งหมดนี้ Hyrox คือเวทีเดียวที่มีตัวเลือกให้คุณครบทั้งหมด
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าควรลงแข่ง Hyrox ดีไหม หรือสงสัยว่า Hyrox คืออะไร หลายคนอาจเปรียบเทียบกับกีฬายอดฮิตอย่าง CrossFit เพราะมองว่าคล้ายกัน ผมในฐานะโค้ชที่เห็นนักกีฬาทั้ง 2 สายมาแล้วขอบอกตรงนี้เลยครับว่า Hyrox กับ CrossFit แตกต่างกันชัดเจนมาก และ Hyrox คือทางเลือกที่ง่ายกว่า สนุกกว่า และวัดผลได้จริงกว่า สำหรับคนธรรมดาทั่วไป
วันนี้ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดว่า Hyrox แตกต่างจาก CrossFit อย่างไร และทำไมคนทั่วไปถึงเลือก Hyrox เป็นเป้าหมายใหม่ในการออกกำลังกาย
Hyrox คือการแข่งขันที่ตัดเอาท่าเทคนิคสูงออกทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องเรียน Snatch, Clean & Jerk หรือ Muscle-up เลย ไม่เหมือนกับ CrossFit ที่ต้องฝึกท่าโอลิมปิกจนเป็นก่อนลงแข่ง
ที่ Hyrox ทำแบบนี้เพราะผู้ก่อตั้งต้องการให้ “ใครก็แข่งได้” คุณจึงเห็นเวิร์กเอาต์ใน Hyrox เป็นท่าพื้นฐาน เช่น วิ่ง, Farmers Carry, Sandbag Lunges และ Wall Balls ที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที แต่ความท้าทายของ Hyrox คือ การทำท่าง่าย ๆ เหล่านี้ให้ได้ต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักต่างหาก
CrossFit จะมีกรรมการคอยดูท่าว่าถูกต้องไหม ถ้าท่าไม่ครบ มุมไม่ถึง ถือว่าไม่ได้คะแนน แต่ใน Hyrox คือการแข่งขันที่วัดกันด้วย “ตัวเลขเวลา” ล้วน ๆ ไม่สนว่าท่าเพอร์เฟกต์ไหม แค่ทำให้ครบ ทำให้จบ และทำให้เร็วที่สุดก็พอ
เพราะ Hyrox คือการแข่งขันที่คุณแข่งกับตัวเองอย่างแท้จริง ไม่มีกรรมการคอยยกมือฟันธง คุณมีแค่ตัวเอง กับเวลา ที่นับถอยหลังอยู่ในสนามเท่านั้น
CrossFit มีรูปแบบ WOD (Workout of the Day) ที่ซับซ้อน แต่ละวันเปลี่ยนเวิร์กเอาต์ใหม่ ขณะที่ Hyrox คือการแข่งขันรูปแบบเดียวกันทั่วโลก
คุณจะต้องทำเวิร์กเอาต์เดิม ๆ ทั้ง 8 ฐาน และวิ่ง 8 กิโลเมตรในทุกสนาม ทุกประเทศ ทุกปี
สิ่งที่ Hyrox ท้าทายคือ ทำอย่างไรให้ท่าที่คุณเคยทำมาแล้ว “ทำได้เร็วขึ้น เหนื่อยน้อยลง” ในการแข่งขันจริง เพราะ Hyrox วัดความพัฒนาของตัวคุณเองเป็นตัวเลขชัดเจน ไม่เหมือน CrossFit ที่เปลี่ยนเวิร์กเอาต์บ่อย ทำให้เทียบพัฒนาการยากกว่า
สนาม Hyrox ถูกออกแบบให้เหมือนกันหมดทุกประเทศ ใช้อุปกรณ์เดียวกันทุกสนาม เช่น SkiErg และ RowErg จาก Concept 2 ใช้เส้นทางวิ่ง และรูปแบบฐานเหมือนกันทั้งหมด ทำให้คุณมั่นใจได้ว่า…
ถ้าคุณแข่งในเยอรมนี กับแข่งที่ไทย มาตรฐานสนามเหมือนกัน 100%
แต่ CrossFit แต่ละกล่องหรือยิมจะออกแบบ WOD ต่างกัน มีความหลากหลายและแตกต่างกันไป ทำให้ Hyrox เป็นกีฬาที่มีมาตรฐานและวัดผลชัดเจนกว่าในระดับโลก
หลายคนไม่กล้าเล่น CrossFit เพราะต้องเรียนรู้ท่าใหม่ ๆ และบางท่าเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ถ้าไม่มีโค้ชดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ใน Hyrox คุณเริ่มซ้อมเองได้เลยในฟิตเนสปกติ ไม่มีท่ายาก ไม่มีเทคนิคซับซ้อน
ลูกค้าหลายคนของผมเลือก Hyrox เพราะรู้สึกว่า “เป็นกีฬาแข่งขันที่ตัวเองมีโอกาสจบได้จริง” ซึ่งต่างจาก CrossFit ที่หลายคนยอมแพ้ไปตั้งแต่ยังฝึกท่าโอลิมปิกไม่เป็น
ไฮไลท์สำคัญที่ Hyrox ชัดเจนกว่าคือ ทุกครั้งที่คุณลงแข่ง คุณสามารถวัดความฟิตของตัวเองจากตัวเลขเวลาที่จบการแข่งขันได้ทันที เพราะการแข่งขัน Hyrox คือรูปแบบเดียวกันทั่วโลก คุณสามารถเปรียบเทียบเวลาของตัวเองกับเพื่อน กับสถิติโลก หรือกับครั้งก่อน ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ต่างจาก CrossFit ที่หลากหลายเกินไป เวิร์กเอาต์เปลี่ยนทุกวัน ทำให้การวัดผลในระยะยาวไม่ชัดเจนเท่า Hyrox
สุดท้ายนี้ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดในมุมมองโค้ชอย่างผมคือ Hyrox เป็นการแข่งขันระดับโลกที่คนธรรมดาทุกคนมีโอกาสเข้าร่วมได้จริง ๆ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มฟิตเนส หรือเป็นสายสุขภาพทั่วไป ขอแค่ฝึกซ้อมและเตรียมตัวให้พร้อม คุณก็สามารถลงสนามแข่งขันในงาน Hyrox ได้เลย ไม่มีใครถามว่าคุณทำท่าโอลิมปิกได้ไหม ขอแค่คุณกล้าลงแข่ง
ในขณะที่ CrossFit แม้จะเปิดรับทุกคน แต่ความรู้สึกว่าเป็นกีฬาสำหรับ “สายแข็ง” ยังติดอยู่ในใจคนส่วนใหญ่ เพราะภาพลักษณ์ของนักกีฬา CrossFit มักเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อชัดเจน แข็งแรง และยกเวทหนัก ๆ ซึ่ง Hyrox ไม่เป็นแบบนั้นครับ
และนี่แหละครับคือเหตุผลที่ทำให้วันนี้ Hyrox คือกีฬาที่คนฟิตเนสทั่วโลกเลือกเป็นเป้าหมายใหม่ มากกว่าการเล่น CrossFit ในหลายประเทศแล้ว
หลังจากที่คุณรู้แล้วว่า Hyrox คือ การแข่งขันที่นำการวิ่งและเวิร์กเอาต์มาผสมกันอย่างลงตัว วันนี้ผมอยากพาคุณมาดูให้ลึกขึ้นครับ ว่าใครบ้างที่เหมาะกับ Hyrox และทำไมผมถึงบอกว่า Hyrox คือกีฬาแห่งทุกคน โดยไม่เกี่ยงอายุ เพศ หรือพื้นฐานเลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะในการเป็นโค้ช ผมเห็นลูกค้ามาหลายแบบ มีทั้งสายวิ่ง สายเวท คนทั่วไปที่ออกกำลังกายแค่อยากลดน้ำหนัก หรือแม้แต่คนที่ไม่เคยลงแข่งขันอะไรในชีวิต แต่เมื่อรู้ว่า Hyrox คืออะไร พวกเขากลับสามารถเข้าสนามนี้ได้ทั้งหมด ขอแค่มีสิ่งเดียว: ใจที่พร้อมจะเริ่ม
คุณเป็นคนที่ไปฟิตเนสแต่ไม่มีเป้าหมายไหมครับ? ทำเวทบ้าง วิ่งบ้าง แต่ไม่รู้ว่าตัวเองฟิตแค่ไหน? ผมบอกเลยว่า Hyrox คือเป้าหมายที่จับต้องได้จริง ๆ คุณจะมีตัวเลขเวลาเป็นตัววัดที่ชัดเจน คุณจะรู้ว่าตัวเองพัฒนาขึ้นแค่ไหนจากการแข่งขันแต่ละครั้ง ไม่ต้องยกเวทหนัก ไม่ต้องวิ่งอัลตร้ามาราธอน ขอแค่มีใจ Hyrox คือสนามที่รอคุณอยู่
นักวิ่งส่วนใหญ่มักแข็งแรงแค่ช่วงล่าง แต่พอมาเจอ Hyrox คุณจะรู้ว่าระบบร่างกายทั้งตัวนั้นสำคัญแค่ไหน เพราะ Hyrox ไม่ได้เน้นแต่ขา แต่มันบังคับให้คุณใช้แขน หลัง ไหล่ แกนกลาง ตลอดการแข่งขัน ด้วยเวิร์กเอาต์ 8 ฐาน ที่ผสมการวิ่งทุกระยะ คุณจะได้ฝึกกล้ามเนื้อทั้งตัวไปพร้อม ๆ กับพัฒนาความอึดของหัวใจ
นี่แหละครับคือเหตุผลที่ผมแนะนำให้นักวิ่งลอง Hyrox คุณจะกลายเป็น “นักวิ่งที่ฟิตทั้งตัวจริง ๆ”
คนที่ยกเวทมักมีปัญหาเรื่องระบบหัวใจและหายใจ เพราะเน้นฝึกกำลังกล้ามเนื้อ แต่ Hyrox คือสนามที่บังคับให้คุณต้อง “ใช้ลมหายใจพาร่างกายไปต่อ” ผมเห็นหลายคนกล้ามโตแต่ไปไม่รอดใน Hyrox เพราะไม่ได้ฝึกการควบคุมลมหายใจและหัวใจ
ถ้าคุณเป็นสายเวท ผมแนะนำให้ลอง Hyrox คุณจะรู้ว่าสนามแข่งนี้เปิดโลกและเติมเต็มข้อบกพร่องในร่างกายคุณได้จริง
ในอดีต การแข่งขันฟิตเนสมักมีภาพจำว่าเป็นเรื่องของสายแข็งหรือมืออาชีพเท่านั้น แต่วันนี้ Hyrox คือสนามที่ใคร ๆ ก็ลงแข่งได้จริง ๆ คุณอาจไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็น “นักกีฬา” แต่เมื่อรู้ว่า Hyrox คืออะไร คุณจะรู้ว่านี่คือโอกาสที่คุณจับต้องได้
คุณไม่ต้องแข่งกับใคร คุณแค่แข่งกับตัวเอง แข่งกับเวลา และสนุกไปกับมัน
ผมในฐานะโค้ช เห็นผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่กล้าเข้ายิม ไม่กล้าลงแข่งอะไรเลย แต่พอเจอ Hyrox ชีวิตพวกเธอเปลี่ยน เพราะ Hyrox ไม่ใช่เวทหนัก ไม่มีท่ายกน้ำหนักเทคนิคสูง แต่เป็นเวิร์กเอาต์ที่ใครก็ทำได้
ในสนาม Hyrox คุณจะเห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่วิ่งชนะผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ได้จริง นี่คือกีฬาที่วัดใจ ไม่ได้วัดกล้ามเนื้อ
Hyrox มีการแบ่งรุ่นให้เหมาะกับคนทุกวัย โดยเฉพาะในรุ่น Open และ Doubles ที่เปิดโอกาสให้คุณเริ่มจากเลเวลง่ายก่อน แข่งกับเพื่อน แข่งกับคนในวัยเดียวกัน และเมื่อมั่นใจแล้ว คุณค่อยไต่ระดับไปสู่ Pro หรือ Relay ได้ในอนาคต
นี่คือเหตุผลที่ผมบอกว่า Hyrox คือกีฬาที่ไม่จำกัดอายุครับ
สุดท้ายนี้ ผมบอกกับลูกค้าทุกคนเสมอว่า สนาม Hyrox คือสนามที่ทำให้คุณรู้จักตัวเองมากที่สุด เพราะคุณจะไม่มีใครช่วย ไม่มีใครแบก ไม่มีช่วงพัก ไม่มีทางลัด คุณต้องพาร่างกายและใจไปให้ถึงเส้นชัยด้วยตัวเองเท่านั้น
นั่นแหละครับคือเสน่ห์ของ Hyrox และคือเหตุผลที่ผมกล้าบอกว่า “Hyrox คือสนามสำหรับทุกคน”
หากคุณมีแค่ “ใจที่อยากลอง” ผมบอกเลยครับว่า Hyrox คือสนามกีฬาของคุณ
สำหรับใครที่ติดตามการแข่งขันฟิตเนสระดับโลก คงพอได้ยินชื่อ Hyrox กันมาบ้างแล้ว แต่ในปี 2025 นี้ จะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยครับ ที่ Hyrox คือ รายการฟิตเนสระดับโลก จะเข้ามาจัดการแข่งขันในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเลือกจัดที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) บางนา กรุงเทพฯ สนามแข่งขัน Indoor มาตรฐานระดับสากลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Hyrox ในประเทศไทย
นี่ไม่ใช่แค่ข่าวดีเฉย ๆ แต่คือโอกาสที่คนไทยทุกคนสามารถ “ลงสนามจริง” ของการแข่งขันระดับโลกได้ โดยไม่ต้องบินไปต่างประเทศให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายอีกต่อไป
จากเดิม Hyrox คือกีฬาที่คนไทยรู้จักผ่านวิดีโอในยูทูบ ดูผ่านโซเชียลมีเดียจากนักกีฬาในยุโรปหรืออเมริกา หลายคนรู้สึกว่าเป็นกีฬาไกลตัว หรือเป็นของคนต่างประเทศ แต่ปี 2025 นี้ ความคิดนั้นจะเปลี่ยนไปทันที เพราะ Hyrox กำลังจะมาจัดการแข่งขันจริงในไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก
คุณลองคิดภาพตามนะครับ สนามแข่งที่เคยมีแค่ในยุโรป สหรัฐฯ หรือออสเตรเลีย ตอนนี้มาตั้งอยู่ที่บางนา กรุงเทพฯ ใกล้แค่เอื้อม ใคร ๆ ก็ลงแข่งได้ คุณไม่ต้องนั่งมองผ่านจออีกต่อไป เพราะ Hyrox กำลังจะกลายเป็นสนามแข่งขันฟิตเนสของคนไทยทุกคนจริง ๆ
BITEC คือสถานที่จัดอีเวนต์ระดับประเทศและระดับโลกมากมายในประเทศไทย พื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 70,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ Indoor ปิดที่สามารถควบคุมมาตรฐานการจัดแข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และที่สำคัญคือมีโครงสร้างรองรับทั้งสนามวิ่ง 8 กิโลเมตร และพื้นที่เวิร์กเอาต์ 8 ฐานที่ใช้มาตรฐานเหมือนกับต่างประเทศทุกสนาม
เพราะอย่างที่ผมเคยบอกไป Hyrox คือการแข่งขันที่ควบคุมมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ทั้งเรื่องอุปกรณ์ เวิร์กเอาต์ สนามแข่งขัน ทุกอย่างต้องเหมือนกัน 100% เพื่อให้สามารถจับเวลาและเปรียบเทียบผลกับการแข่งขันที่อื่น ๆ ได้อย่างยุติธรรม
ดังนั้น BITEC บางนา จึงเหมาะที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ครับ
คำตอบง่ายมากครับ ใครก็ลงได้จริง ๆ Hyrox คือการแข่งขันที่เปิดรับนักกีฬาทุกประเภท ทุกเพศ ทุกวัย โดยคุณสามารถเลือกลงแข่งในรุ่นที่เหมาะกับตัวเอง เช่น
และที่สำคัญคือ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬาอาชีพก็เข้าร่วมได้ นี่แหละคือเสน่ห์ของ Hyrox ที่ต่างจากกีฬาประเภทอื่น ๆ
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากแนะนำเลยครับว่าตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ที่คุณจะเริ่มซ้อม เพื่อเข้าสู่ Hyrox ครั้งแรกในไทย เพราะยังมีเวลาอีกไม่กี่เดือนเท่านั้นก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นในปี 2025 ที่ BITEC
สิ่งที่คุณควรเริ่มทำทันทีคือ...
ที่สำคัญ คุณสามารถซ้อมได้จริงที่ยิมที่รองรับการฝึก Hyrox โดยเฉพาะในไทย ซึ่งผมจะเล่าในหัวข้อถัดไปครับ
ในฐานะโค้ช ผมพูดตรง ๆ ว่าการที่ Hyrox เข้ามาจัดในไทยครั้งแรกนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่การแข่งขัน แต่มันคือโอกาสที่คนไทยจะได้สัมผัสสนามแข่งระดับโลก โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดเรื่องเงิน เวลา หรือการเดินทางอีกต่อไป ใคร ๆ ก็สามารถลงแข่งได้จริง ๆ
ผมเห็นลูกค้าหลายคนจากคนธรรมดา เริ่มตั้งเป้าหมายชีวิตใหม่เพราะ Hyrox เพราะสนามนี้ไม่สนว่าคุณเป็นใคร สนใจแค่ว่าคุณกล้าหรือเปล่า
ปี 2025 ที่ BITEC บางนา จะกลายเป็นเวทีที่เปลี่ยนความคิดของคนรักฟิตเนสในประเทศไทยไปตลอดกาล เพราะ Hyrox คือเวทีที่คุณไม่ต้องเป็นนักกีฬาถึงจะลงแข่งได้ ขอแค่คุณซ้อมและกล้าก้าวเข้าสู่สนาม
นี่คือโอกาสที่คนไทยทุกคนจะได้สัมผัสมาตรฐานระดับโลกของจริง และเป็นส่วนหนึ่งของ Hyrox World Series ได้จริง ๆ
ถ้าคุณรู้แล้วว่า Hyrox คือ การแข่งขันฟิตเนสระดับโลก ที่กำลังจัดในไทยปี 2025 ที่ BITEC คำถามสำคัญคือ… ถ้าอยากลงแข่ง Hyrox ต้องไปซ้อมที่ไหน?
ในฐานะโค้ช ผมขอบอกตรง ๆ เลยครับว่า ถ้าคุณจริงจังและอยากเตรียมตัวอย่างถูกต้อง ที่เดียวในประเทศไทยที่พร้อมจริงสำหรับการฝึก Hyrox ตอนนี้คือ Realgym
Realgym เป็นยิมฟังก์ชันแนว Hybrid Training เต็มระบบ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คนไทยได้ซ้อมเหมือนลงแข่ง Hyrox จริง เพราะมีทั้ง:
ในสนาม Hyrox คุณจะเหนื่อยตั้งแต่ 1 กิโลเมตรแรก และแต่ละฐานเวิร์กเอาต์ที่ทำสลับกับการวิ่งจะค่อย ๆ ดึงพลังคุณออกไปจนหมด ถ้าคุณไม่เข้าใจวิธีการเซฟแรงและบริหารระบบหายใจให้ถูก คุณจะหมดแรงตั้งแต่ฐาน 5 โดยไม่รู้ตัว
นี่แหละครับคือสิ่งที่คุณเรียนรู้และฝึกได้จาก Realgym เพราะยิมทั่วไปไม่มีอุปกรณ์จริงให้คุณสัมผัสสนามแข่งแบบนี้
ที่ Realgym ไม่ใช่แค่มีอุปกรณ์ครบครับ แต่ยังมีการเปิด คลาสฝึก Hyrox แบบ Simulation เต็มระบบ ให้คุณได้ลองทั้ง 8 ฐานในรูปแบบต่อเนื่องเหมือนวันแข่งจริง รวมถึงคลาสสอนเทคนิคเฉพาะ เช่น:
คลาสเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณจบสนาม Hyrox ครั้งแรกได้ดีที่สุด
ผมเห็นนักกีฬาหลายคนที่เข้าฟิตเนสทั่วไปแล้วคิดว่าพร้อม แต่พอลงแข่ง Hyrox จริงกลับหมดแรงตั้งแต่ 1 ชั่วโมงแรก เพราะไม่เคยเจอการดึง SkiErg 1,000 เมตร หรือดัน Sled ตามระยะทางจริงมาก่อน
Realgym คือสนามซ้อมของจริง ที่คุณจะได้ฝึกและเข้าใจว่า Hyrox คือสนามที่ร่างกายและใจจะถูกดึงออกจากคุณไปทีละนิด คุณจะได้เรียนรู้วิธีดึงพลังกลับมา และฝึกใจให้พาตัวเองไปถึงเส้นชัย
ในปี 2025 ที่ BITEC บางนา คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่ได้ลงแข่ง Hyrox ครั้งแรกในประเทศไทย แต่ถ้าคุณถามผมว่า ต้องเตรียมตัวยังไงให้พร้อมจริง? คำตอบของผมมีแค่ที่เดียวคือ Realgym
เพราะ...
ถ้าคุณตั้งใจจริง Realgym จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทาง Hyrox ของคุณ
สุดท้ายนี้ ผมในฐานะโค้ชขอบอกกับคุณว่า... สนาม Hyrox คือสนามแข่งของทุกคน แต่สนามซ้อมจริงในไทยตอนนี้มีแค่ที่ Realgym เท่านั้น
เมื่อคุณรู้แล้วว่า Hyrox คือ อะไร และกำลังจะตัดสินใจลงสนามจริง สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องรู้ต่อจากนี้ไม่ใช่แค่ “ไปสมัครแข่ง” ครับ แต่คือ “จะเตรียมตัวอย่างไรให้จบสนามได้จริง?”
เพราะ Hyrox คือสนามที่วัดใจและวัดพลังร่างกายไปพร้อมกัน การซ้อมมั่ว ๆ หรือเข้าใจผิดตั้งแต่แรก อาจทำให้คุณหมดแรงตั้งแต่ครึ่งสนาม หรือแย่กว่านั้นคือเจ็บตัวก่อนถึงเส้นชัย
วันนี้ในฐานะโค้ช ผมจะพาคุณวางแผนซ้อมอย่างถูกวิธีแบบละเอียดทุกขั้น เพื่อให้คุณพร้อมลงแข่ง Hyrox ครั้งแรกในชีวิตได้จริง และจบสนามด้วยรอยยิ้ม
ก่อนเริ่มซ้อม ผมอยากให้คุณเข้าใจภาพรวมของสนาม Hyrox ก่อนว่า ในการแข่งขันจริงคุณจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะนี่คือหัวใจของการวางแผนซ้อมที่ถูกต้อง
พูดง่าย ๆ คือ คุณจะไม่มีช่วงพักจริง คุณจะเหนื่อยตั้งแต่ฐานแรกและสะสมไปเรื่อย ๆ จนครบ 8 รอบ
1. ซ้อมวิ่ง 1 กิโลเมตรซ้ำ ๆ แทนการวิ่งยาว
หลายคนคิดว่าการเตรียมตัว Hyrox ต้องวิ่งยาว ๆ แบบ 10 กิโลเมตรหรือ Half Marathon ซึ่งผิดครับ เพราะในสนาม Hyrox คุณต้องวิ่งระยะสั้นซ้ำ ๆ พร้อมหยุดทำเวิร์กเอาต์ต่อเนื่อง
คุณจึงควรฝึกวิ่ง 1 กิโลเมตร ซ้ำไปเรื่อย ๆ เช่น วิ่ง 1 กิโลเมตร หยุดพัก 1 นาที แล้ววิ่งต่อ ทำซ้ำให้ครบ 5-8 รอบ เพื่อให้ร่างกายชินกับระบบหายใจและการเร่งตัวในระยะสั้นซ้ำ ๆ มากกว่าวิ่งยาวครั้งเดียว
2. ฝึกใช้เครื่อง Concept 2 เป็นอันดับแรก
เครื่อง SkiErg และ RowErg จากแบรนด์ Concept 2 คืออุปกรณ์หลักในสนามแข่ง Hyrox ซึ่งทุกคนจะเจอทั้งสองเครื่องนี้แน่นอน และจะหนีไม่ได้
ถ้าคุณไม่เคยใช้เครื่องพวกนี้เลย คุณจะแพ้ตั้งแต่ฐานแรก ดังนั้นให้คุณเริ่มจากเรียนรู้การตั้งค่าเครื่อง และการดึงสายหรือพายเรืออย่างถูกจังหวะ ใช้แรงจากแกนกลางและขาให้มากกว่าการใช้แขนเพียงอย่างเดียว
ข้อนี้แนะนำให้คุณเข้าคลาสฝึกกับโค้ชที่ Realgym จะดีที่สุด เพราะมีเครื่องของแท้ให้ฝึกจริง
3. รู้จักเวิร์กเอาต์แต่ละฐานก่อนลงสนามจริง
คุณไม่จำเป็นต้องทำได้เร็วตั้งแต่วันแรก แต่คุณต้องรู้ว่าแต่ละฐานทำยังไง ใช้แรงจากกล้ามเนื้อส่วนไหน เพราะ Hyrox คือสนามที่คุณจะเหนื่อยสะสมไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่รู้จักฐานใดฐานหนึ่ง คุณจะหมดแรงทันที
แนะนำให้ค่อย ๆ ฝึกฐานต่อไปนี้ให้ครบในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก:
จำไว้ว่าท่าเหล่านี้ไม่มีอะไรยาก แต่ทำต่อเนื่องกันจนครบ 8 ฐานต่างหากที่ทำให้ Hyrox โหดกว่าที่คิด
4. ฝึกวิ่งสลับเวิร์กเอาต์ (Simulated Training)
นี่คือหัวใจของการซ้อม Hyrox ครับ คุณต้องฝึก “วิ่งสลับกับเวิร์กเอาต์” ให้ชิน เพราะในการแข่งขันจริง คุณจะไม่มีการพักแบบที่คุณคุ้นเคย
ตัวอย่างการซ้อมเช่น:
การซ้อมแบบนี้ช่วยให้ระบบหายใจและระบบกล้ามเนื้อสลับทำงานได้ดีขึ้น และลดโอกาสหมดแรงกลางสนามจริง
5. เริ่มเข้าคลาส Hyrox Simulation อย่างน้อย 1-2 ครั้ง/เดือน
ถ้าอยากลงสนามแข่ง Hyrox จริง คุณต้องลองซ้อมแบบ Simulation ที่ Realgym อย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ได้ลองทำ 8 ฐานต่อเนื่องจริง ฝึกการบริหารแรง และจับเวลาของตัวเอง
นี่คือเทคนิคสำคัญที่ผมแนะนำกับนักกีฬาทุกคน เพราะการซ้อมจำลองสนามจริงจะช่วยให้คุณรู้ว่าควรเร่งหรือควรผ่อนตอนไหน รวมถึงเรียนรู้จังหวะการหายใจและพักในแต่ละฐานได้ดีที่สุด
จำไว้นะครับ… Hyrox คือสนามแข่งที่เรียบง่าย แต่โหดจากความต่อเนื่อง ถ้าคุณไม่วางแผนซ้อมให้ดี ไม่มีทางจบการแข่งขันแบบมีความสุขได้แน่นอน
ถ้าคุณสงสัยว่า Hyrox คืออะไร? และแค่การแข่งขันฟิตเนสทั่วไปหรือเปล่า? ผมบอกเลยครับว่า คุณกำลังมองข้าม “ปรากฏการณ์กีฬาระดับโลก” ไปแล้ว เพราะตอนนี้ Hyrox คือกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยเฉพาะในสายฟิตเนสที่เน้นความแข็งแรงและความอึดควบคู่กัน ไม่ใช่แค่ในยุโรปหรืออเมริกา แต่ขยายเข้าสู่เอเชียและออสเตรเลียอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ไม่กี่ปี
ในฐานะโค้ชที่ติดตามวงการฟิตเนสระดับโลก ผมอยากพาคุณไปรู้จักเส้นทางความสำเร็จของ Hyrox ในระดับสากลว่าทำไมกีฬานี้ถึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของคนรักสุขภาพทั่วโลกอย่างแท้จริง
ย้อนกลับไปแค่ปี 2017 เท่านั้นครับ Hyrox ยังเป็นเพียงโปรเจกต์เล็ก ๆ ในเยอรมนี ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ “การแข่งขันฟิตเนสที่ใครก็ลงได้” ไม่มีท่ายาก ไม่มีเทคนิคซับซ้อน ใช้การวิ่งและเวิร์กเอาต์แบบง่าย ๆ แต่รวมกันกลายเป็นสนามวัดใจจริงจัง
เพราะความเรียบง่ายแต่ท้าทาย Hyrox กลับได้รับการตอบรับจากนักฟิตเนสสายทั่วไปและมืออาชีพอย่างล้นหลาม การแข่งขันจึงขยายตัวอย่างรวดเร็วในยุโรป ก่อนจะกระโดดข้ามไปสหรัฐอเมริกาในปี 2019 และได้รับการตอบรับดีเกินคาดจน Hyrox ต้องขยายสนามแข่งขันเพิ่มแทบทุกไตรมาส
ในปี 2025 นี้ Hyrox คือการแข่งขันที่มีการจัดอย่างเป็นทางการแล้วมากกว่า 25 ประเทศทั่วโลก โดยมีการแข่งในเมืองใหญ่ ๆ เช่น:
นี่คือหลักฐานว่ากีฬา Hyrox ไม่ใช่กระแสแฟชั่น แต่คือสนามแข่งขันที่กำลังสร้างคอมมูนิตี้นักกีฬาสายฟิตเนสรุ่นใหม่ทั่วโลกอย่างแท้จริง
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Hyrox ขยายตัวได้รวดเร็วคือ ทุกสนามในทุกประเทศ มีมาตรฐานการแข่งขันเหมือนกัน 100% ทั้งเวิร์กเอาต์ 8 ฐาน อุปกรณ์ เครื่อง Concept 2 และรูปแบบวิ่ง 8 กิโลเมตร ทุกอย่างเท่ากันหมด
ไม่ว่าคุณจะลงแข่งในไทย เยอรมนี หรือสหรัฐฯ เวลาที่คุณทำได้ จะถูกนำไปเปรียบเทียบในระบบ Ranking ของโลกทันที คุณจึงสามารถรู้ได้เลยว่า คุณอยู่อันดับที่เท่าไหร่ของโลกในรุ่นของคุณ
นี่คือเสน่ห์สำคัญที่ทำให้ Hyrox คือกีฬาเดียวในโลกตอนนี้ ที่แข่งขันเหมือนกันทุกสนาม วัดผลได้จริง และเปรียบเทียบระดับโลกได้จริง
Hyrox แตกต่างจากการแข่งขันอื่น ๆ ตรงที่มันถูกออกแบบมาเพื่อ “ทุกคน” และทำให้คุณสามารถพัฒนาตัวเองได้แบบมีเป้าหมายและวัดผลได้จริง
วันนี้ Hyrox ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือ “แพลตฟอร์มวัดพัฒนาการ” ของคนสายฟิตเนสทั่วโลก ใครลงแข่งครั้งแรกก็อยากลงครั้งต่อไป เพื่อทำเวลาให้ดีขึ้นในสนามเดิมที่เหมือนกันทุกประเทศ
เพราะ Hyrox คือสนามที่เปิดกว้างจริง ไม่ได้จำกัดเฉพาะสายเวทหรือสายวิ่ง แบรนด์ดังระดับโลก เช่น Nike, Puma, Concept 2 ต่างลงมาเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันในแต่ละปี รวมถึงแบรนด์โภชนาการอย่าง MyProtein ก็เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเป็นทางการ
นั่นเพราะพวกเขาเห็นว่า Hyrox คือแพลตฟอร์มการตลาดที่เข้าถึงคนออกกำลังกายจริงทุกระดับ และมีอัตราการเติบโตสูงกว่ากีฬาประเภทอื่น ๆ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ในเวทีโลกตอนนี้ โค้ชและเทรนเนอร์ฟิตเนสชื่อดังหลายคนมองว่า Hyrox คือเวทีการแข่งขันแห่งยุคใหม่ที่แทนที่ Triathlon หรือ Ironman ได้ในกลุ่มคนที่อยากแข่งแต่ไม่อยากซ้อมหนักแบบสายอัลตร้ามาราธอน
เพราะ Hyrox เน้นการบริหารพลังงานทั้งร่างกายและระบบหายใจ ใช้เวลาแข่งไม่เกิน 2 ชั่วโมง และมีสนามที่ทุกคนลงแข่งได้ง่ายกว่า Ironman หลายเท่า
การที่ Hyrox เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นสัญญาณชัดเจนว่า เวทีนี้กำลังเติบโตในเอเชียอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่ฮ่องกงหรือสิงคโปร์ แต่กำลังขยายสู่มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซียใน 1-2 ปีถัดไป
และในประเทศไทย ปี 2025 นี้ การแข่งขันที่ BITEC บางนา จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ ที่ทำให้ Hyrox คือกีฬาฟิตเนสลูกผสมที่กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของคนไทยหลายพันคน
ทั้งหมดนี้ทำให้วันนี้ Hyrox คือการแข่งขันฟิตเนสที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และกำลังเปลี่ยนวิธีคิดของคนออกกำลังกายทั่วโลกไปตลอดกาล
โดยขยายเนื้อหาอีก 10 เท่า อธิบายเชิงลึกถึงนักกีฬาชื่อดัง เรคคอร์ดระดับโลก และระบบการจัดอันดับของ Hyrox ในระดับสากล ใช้สไตล์โค้ชที่แนะนำ เป็นกันเอง SEO-friendly แทรก Focus Keyword “Hyrox คือ” อย่างเป็นธรรมชาติและลื่นไหลตลอดเนื้อหา
เมื่อคุณรู้แล้วว่า Hyrox คือ การแข่งขันฟิตเนสที่ใครก็ลงแข่งได้ อีกคำถามหนึ่งที่คนสงสัยบ่อยมากคือ “แล้วในสนามระดับโลก ใครคือนักกีฬาที่เร็วที่สุดในโลก?”
วันนี้ในฐานะโค้ช ผมจะพาคุณไปรู้จักกับ แชมป์โลก Hyrox และ เรคคอร์ดสำคัญที่คนทั้งวงการจับตามอง บอกเลยว่านักกีฬาพวกนี้ไม่ใช่นักยกเวทหรือสายวิ่งโดยตรง แต่คือสายลูกผสมที่วางกลยุทธ์เป็น ใช้แรงอย่างชาญฉลาด และเข้าใจระบบร่างกายตัวเองอย่างแท้จริง
ถ้าคุณอยากรู้ว่า Hyrox คือเวทีของนักกีฬาระดับโลกแบบไหน ลองดูพวกเขาเป็นตัวอย่างครับ
ในปี 2024 ที่ผ่านมา ชื่อของ Tim Wenisch คือชื่อที่ทุกคนในสนาม Hyrox ต้องยอมรับในฐานะ เจ้าของสถิติเร็วที่สุดในโลก (Hyrox World Record Holder) ในการแข่งขันรุ่น Pro Men
Tim Wenisch เป็นนักกีฬาสายไตรกีฬามาก่อน แต่เปลี่ยนสายมาสู่ Hyrox อย่างเต็มตัวเพราะเขาเห็นว่า Hyrox คือสนามแข่งที่ไม่ใช่แค่ใช้แรงอย่างเดียว แต่ต้องบริหารระบบหายใจและกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน ซึ่งตรงกับสไตล์การซ้อมของเขา
เรคคอร์ดล่าสุดของ Tim Wenisch ในสนามอย่างเป็นทางการ คือ 55 นาที 09 วินาที ในสนามที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ปี 2024
ถ้าคุณไม่เคยลงแข่ง Hyrox อาจคิดว่า 55 นาที ดูไม่เร็วเท่าไหร่ แต่สำหรับสนาม Hyrox ที่ต้องวิ่ง 8 กิโลเมตรและทำเวิร์กเอาต์ 8 ฐาน ความเร็วนี้คือระดับ “เหนือมนุษย์” เพราะนักกีฬาทั่วไปใช้เวลากัน 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นอย่างน้อย
Tim Wenisch จึงถูกยกให้เป็น The Hybrid Machine แห่งวงการ Hyrox ในเวลานี้
ถ้าให้เปรียบเทียบกับวงการฟุตบอล Alexander Roncevic ก็คือ Messi ของวงการ Hyrox ครับ เพราะเขาคือนักกีฬาที่คว้าแชมป์ในรายการใหญ่ได้มากที่สุดตั้งแต่ Hyrox เริ่มก่อตั้ง
Alexander เป็นนักกีฬาจากออสเตรีย ที่โดดเด่นด้วยรูปแบบการวิ่งสม่ำเสมอและจังหวะการดึงเครื่อง Concept 2 ที่แม่นยำที่สุดในโลก ทุกคนในวงการต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Roncevic เป็นนักกีฬาที่ควบคุมแรงตัวเองได้ดีที่สุด
เขาคืออดีตเจ้าของสถิติโลก ก่อนจะถูก Tim Wenisch ทำลายสถิติไปในปีล่าสุด แต่ผลงานโดยรวม Roncevic ยังเป็นแชมป์ในรายการ World Championships หลายสมัย และถือว่าเป็น Icon ของวงการ Hyrox ตัวจริง
ในฝั่งผู้หญิง ชื่อที่ไม่มีใครไม่รู้จักคือ Lauren Weeks เธอคือนักกีฬาสาย Hybrid Training ตัวจริง ที่ครองแชมป์โลกฝ่ายหญิงหลายสมัยติดต่อกัน และทำเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 05 นาที ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในโลกของนักกีฬาหญิง
Lauren Weeks คือคนที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Hyrox จากกีฬาสำหรับผู้ชาย ให้กลายเป็นเวทีของผู้หญิงด้วย เพราะเธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Hyrox คือการแข่งขันที่ไม่ได้วัดแค่พละกำลัง แต่ต้องวัด “ใจ” ด้วย
สำหรับระบบการแข่งขันของ Hyrox ในระดับมืออาชีพ จะมี Elite 15 เป็นระบบจัดอันดับนักกีฬาที่เร็วที่สุดในโลกในแต่ละฤดูกาล โดยจัดอันดับทั้งชายและหญิง
Elite 15 คือนักกีฬาตัวจริงระดับโลก ที่ถูกคัดเลือกจากผลงานทั้งปี และมีสิทธิ์ลงแข่งในรายการ Hyrox World Championships ซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดในรอบปี
หากใครติดอันดับ Elite 15 ได้ ถือว่าคือจุดสูงสุดของนักกีฬา Hyrox ในเวลานั้น และสามารถคว้าแชมป์โลกได้หากชนะในรายการ World Championships
Hyrox World Championships คืองานแข่งใหญ่ประจำปีที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2018 และต่อเนื่องทุกปีจนถึงปัจจุบัน โดยในแต่ละปีจะมีการหมุนเวียนประเทศเจ้าภาพไปเรื่อย ๆ เช่น เยอรมนี สหรัฐฯ หรืออังกฤษ
แชมป์โลกในแต่ละปี ไม่ได้วัดจากรอบคัดเลือกเพียงครั้งเดียว แต่จะรวบรวมผลคะแนนและเวลาจากสนามแข่งทั้งฤดูกาล แล้วคัดเอา 15 อันดับแรกเข้าสู่รอบสุดท้าย
ในสนามนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ชิงแชมป์โลก ขอแค่คุณทำเวลาได้เร็วพอในสนามแข่งปกติ
สำหรับคนธรรมดาอย่างเรา ๆ เป้าหมายอาจไม่ใช่แชมป์โลก แต่การทำเวลาได้ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที คือมาตรฐานของ “นักกีฬาสมัครเล่นที่ฟิตจริง”
หลายคนตั้งเป้าไปให้ถึง Hyrox World Championships Open Division ซึ่งเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ลงแข่งในเวทีเดียวกับ Elite 15 แบบไม่มีการปิดสนาม
เพราะการมีเป้าหมายที่ชัดเจนสำคัญมากสำหรับนักกีฬาทุกคน และการรู้จักแชมป์โลกจะทำให้คุณเข้าใจว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ฟิตที่สุดเพราะโชคช่วย แต่เพราะพวกเขาเข้าใจร่างกายตัวเองดีที่สุด ใช้แรงอย่างมีแผน และควบคุมใจตัวเองได้ในสนามแข่งจริง
Hyrox คือสนามที่ไม่ได้ห้ามคนธรรมดาเข้าใกล้แชมป์โลก แต่กลับเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แข่งในสนามเดียวกัน และวัดเวลาของตัวเองเคียงข้างพวกเขา
และนี่แหละครับ คือเสน่ห์ของ Hyrox
หลังจากที่คุณรู้แล้วว่า Hyrox คือ การแข่งขันฟิตเนสระดับโลกที่จัดเต็มทั้งการวิ่งและเวิร์กเอาต์ รวมทั้งหมด 8 กม. + 8 ฐาน หลายคนก็ยังมีคำถามคาใจ ว่าแล้วคนธรรมดาจะเริ่มได้จริงไหม? ต้องฟิตแค่ไหนถึงลงแข่งได้? หรือใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง?
ในฐานะโค้ชที่เห็นทั้งคนธรรมดาและนักกีฬาสมัครเล่นเริ่มต้นกับ Hyrox มาหลายสิบคน ผมรวบรวม “คำถามที่พบบ่อยที่สุด” พร้อมตอบให้อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายที่สุดแบบนี้ครับ
Hyrox คือการแข่งขันที่ออกแบบมาให้ ใครก็ลงได้จริง ๆ นี่ไม่ใช่แค่สโลแกน แต่มันคือเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ในสนามครับ เพราะ Hyrox ไม่มีท่าโอลิมปิก ไม่มีท่าเทคนิคยาก ทุกเวิร์กเอาต์เป็นท่าพื้นฐาน เช่น ดันเลื่อน พายเรือ เดินถือของ กระโดด ฯลฯ ที่คนทั่วไปก็ทำได้
รุ่น Open Division ของ Hyrox ถูกออกแบบมาเพื่อคนธรรมดาที่มีร่างกายแข็งแรงระดับพื้นฐาน ข้อสำคัญคือ ไม่ต้องมีพื้นฐานกีฬาอะไรมาก่อน ขอแค่ใจสู้และพร้อมฝึกตามโปรแกรมที่ถูกต้อง ก็ลงสนามจริงได้แล้ว
ในฐานะโค้ช ผมบอกเลยครับว่า คุณไม่จำเป็นต้อง “ฟิตมาก” แต่ควรมีพื้นฐานคาร์ดิโอและความแข็งแรงในระดับเบื้องต้น เช่น:
จากนั้นค่อย ๆ สะสมประสบการณ์ผ่านการซ้อม การเข้า Simulation Class และเมื่อร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้น คุณก็พร้อมลงสนามจริงได้ครับ
อุปกรณ์ที่ใช้ใน Hyrox คืออุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ในการแข่งขันทุกสนามทั่วโลก เช่น:
ถ้าคุณอยากฝึกแบบมาตรฐาน ควรซ้อมที่ยิมที่มีเครื่อง Concept 2 ของแท้ เช่น Realgym ซึ่งเป็นยิมเดียวในไทยที่ครบทุกอุปกรณ์ในตอนนี้ การซื้อมาเล่นเองที่บ้านไม่ค่อยเหมาะครับ เพราะเครื่องพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง และการฝึกควรมีโค้ชคอยแนะนำตั้งแต่แรก เพื่อให้ใช้อุปกรณ์ได้ถูกวิธี
Hyrox คือการแข่งขันที่เรียบง่ายกว่า CrossFit เพราะ:
CrossFit มีความหลากหลายมากกว่า แต่มีท่าฝึกเทคนิคสูง ในขณะที่ Hyrox เป็นสนามวัดความฟิตทั้งร่างกายและจิตใจโดยไม่ต้องมีพื้นฐานท่าอะไรยากเลย
ผมแนะนำให้ทำตามนี้ครับ:
เครื่อง Concept 2 แต่ละเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 60,000–80,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและแหล่งจำหน่าย ถ้าต้องการอุปกรณ์มาตรฐานที่ใช้ในสนาม Hyrox จริง ควรเลือก SkiErg และ RowErg จากแบรนด์ Concept 2 เท่านั้น
แต่สำหรับคนทั่วไป ผมแนะนำให้เลือกฝึกที่ยิมที่มีเครื่องเหล่านี้อยู่แล้วจะคุ้มค่ากว่า เช่น Realgym ซึ่งมีครบและเป็นเครื่องของแท้ ใช้ซ้อมได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนซื้อเอง
เลือกดูเครื่อง Concept 2 ของเราได้ที่นี่
คำตอบคือได้ครับ ถ้าคุณเริ่มจากการฝึกเวิร์กเอาต์พื้นฐาน เช่น:
แต่ถ้าอยากฝึกแบบเข้มข้นและเตรียมลงแข่งจริง คุณควรซ้อมในยิมที่มีอุปกรณ์จริง และเข้าสู่ Simulation Class เพื่อจำลองสนามจริง เพราะ Hyrox คือการแข่งขันที่วัดทั้งแรง ความอึด และใจในสภาพสนามจริง ไม่มีทางฝึกครบได้ด้วยตัวเองที่บ้านครับ
ปี 2025 นี้ Hyrox จะจัดการแข่งขันครั้งแรกในประเทศไทย ที่ BITEC บางนา สนามมาตรฐานระดับโลก พร้อมอุปกรณ์และรูปแบบสนามเหมือนกับในเยอรมนีหรือสหรัฐอเมริกาเป๊ะ ๆ
ใครก็สามารถสมัครเข้าร่วมได้ทั้งรุ่นเดี่ยว รุ่นคู่ หรือทีม
ผมแนะนำให้เลือก:
ถ้าคุณไม่มั่นใจ ลง Doubles ไปก่อน แล้วเมื่อพร้อมค่อยลงแข่งเดี่ยวในครั้งถัดไปก็ได้
ในฐานะโค้ช ผมยืนยันว่า Hyrox คือปรากฏการณ์จริง เพราะตัวเลขการเติบโตในระดับโลกไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นแพลตฟอร์มการแข่งที่ตอบโจทย์คนรักฟิตเนสทุกระดับ ทั้งนักกีฬาสมัครเล่นและสายสุขภาพที่อยากมีเป้าหมายใหม่ ๆ
คุณไม่ต้องรอพิสูจน์แล้วครับ เพราะตอนนี้สนามแรกในไทยกำลังจะเปิดในปี 2025 นี้ที่ BITEC
ถ้าคุณอยากเริ่มฝึกวันนี้เลย อุปกรณ์ฝึก Hyrox สำหรับใช้ที่บ้านก็มีให้เลือกครบแล้ว – ทั้ง Sled แบบดันได้ในบ้าน, ลูกบอล Wall Ball, SkiErg, และอุปกรณ์ยกแบบ Functional โค้ชคัดมาแล้วว่าใช้ฝึกได้จริง และเตรียมร่างให้พร้อมลงสนามอย่างมั่นใจ ดูอุปกรณ์ฝึก Hyrox ที่บ้าน คลิกที่นี่